ข่าวและกิจกรรม

แสดงความยินดีกับบัณฑิตคณะจิตวิทยา ในโอกาสที่ได้รับเหรียญรางวัล ประจำปีการศึกษา 2566

 

คณะจิตวิทยาขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตคณะจิตวิทยา

  • นางสาวชมพูภัค มอนิก้า พรรัตนกำจาย (สาขาวิชาจิตวิทยา)
  • นางสาวดาอิน ลี (สาขาวิชาวิทยาศาสตร์จิตวิทยา)

ในโอกาสที่ได้รับเหรียญรางวัล ประจำปีการศึกษา 2566
พิธีรับพระราชทานเหรียญรางวัล วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2567 ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

 

เหรียญรางวัลมอบให้กับบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 1 ที่มีเกรดเฉลี่ยสะสมสูงที่สุดในแต่ละสาขาวิชา ปีการศึกษา 2566

แสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 36 ปี แห่งการสถาปนาวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี

 

วันที่ 24 กันยายน 2567 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐสุดา เต้พันธ์ คณบดีคณะจิตวิทยา พร้อมด้วยคุณวีระยุทธ กุลสุวิพลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารคณะจิตวิทยา ร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 36 ปี แห่งการสถาปนาวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ โถง ชั้น 3 อาคารวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาฯ

 

การควบคุมตนเอง – Self-control

 

การควบคุมตนเอง – Self-control

 

การควบคุมตนเอง หมายถึง ความสามารถในการเปลี่ยนหรือยับยั้งอารมณ์ พฤติกรรม และความปรารถนาตามธรรมชาติของบุคคล ในการตอบสนองต่อเป้าหมายระยะสั้นที่มีความดึงดูดใจ เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายในระยะยาว และเพื่อเป็นการกระทำตามกฎหรือบรรทัดฐานของสังคม

 

การควบคุมตนเองหมายรวมไปถึงการจัดการระหว่างแรงจูงใจ 2 ประเภท ได้แก่ แรงกระตุ้นตามธรรมชาติ และความต้องการทางวัฒนธรรม

 

แรงกระตุ้นโดยธรรมชาติเป็นการตอบสนองพื้นฐานที่กระทำเพื่อตนเองในลักษณะค่อนข้างเห็นแก่ตัว ในขณะที่ความต้องการทางวัฒนธรรมเป็นระบบที่เกิดจากกฎและบรรทัดฐานของกลุ่มหรือสังคม การควบคุมตนเองเป็นสิ่งที่คอยยับยั้งการกระตุ้นโดยธรรมชาติและส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมที่สอดคล้องกับสังคม เพื่อให้ตนเป็นที่ยอมรับ

 

 

 

 

การควบคุมตนเองมีความหมายใกล้เคียงกับนิยามของการกำกับตนเอง (self-regulation) แต่การกำกับตนเองมีความหมายถึงบริบทที่กว้างกว่าการควบคุมตนเอง เพราะหมายรวมไปถึงกระบวนการปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมของตนเองเพื่อที่จะสามารถดำรงอยู่บนเส้นทางที่จะนำไปสู่เป้าหมายนั้น ๆ โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องยับยั้งการตอบสนองอื่น ๆ หรือเป็นเพียงแค่การตอบสนองต่อสิ่งรบกวนภายนอก อีกทั้งแรงจูงในในการกำกับตนเองนั้นจะต้องมีจุดกำเนิดมาจากภายในตัวบุคคลนั้นเอง

 

นอกจากนี้ การกำกับตนเองเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติและไม่จำเป็นต้องอาศัยการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ ส่วนการควบคุมตนเองนั้นเป็นลักษณะย่อย ๆ ที่มีความหมายเฉพาะเจาะจง อยู่ภายใต้การกำกับตนเองอีกทีหนึ่ง ซึ่งในสถานการณ์ที่บุคคลต้องอาศัยการควบคุมตนเองนั้น บุคคลต้องใข้ความพยายามในการปรับเปลี่ยนการตอบสนองของตนโดยยับยั้งการตอบสนองพื้นฐานเพื่อนำไปสู่ทางเลือกในการตอบสนองอื่น ๆ ที่ตนให้คุณค่ามากกว่า

 

 

การควบคุมตนเองอาจหมายถึง สภาวะการควบคุมตนเอง (state self-control) หรือลักษณะนิสัยการควบคุมตนเอง (dispositional self-control) โดยสภาวะการควบคุมตนเองจะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์และเวลา ซึ่งมีงานวิจัยหลายงานพบว่าความสามารถในการควบคุมตนเองของบุคคลขึ้นอยู่กับอิทธิพลทางสถานการณ์ รวมถึงความพยายามในการควบคุมตนเองในอดีต อารมณ์และแรงจูงใจ ส่วนลักษณะนิสัยการควบคุมตนเองนั้นมีแนวโน้มที่จะคงที่ข้ามเวลาและสถานการณ์มากกว่า

 

 


 

 

การพร่องในการควบคุมตน – Ego-depletion

 

การพร่องในการควบคุมตน หมายถึง สภาวะที่บุคคลเกิดความพร่องในการควบคุมตนเองในด้านความคิด ความรู้สึก หรือพฤติกรรมที่เกิดจากการแสดงพฤติกรรมที่ต้องอาศัยการควบคุมตนเองก่อนหน้า

 

เนื่องจากกระบวนการในการควบคุมตนเองนั้นอยู่ในรูปแบบของพลังงานอย่างหนึ่ง ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด เมื่อบุคคลต้องใช้ทรัพยากรในการควบคุมตนเองซ้ำ ๆ ทำให้ทรัพยากรดังกล่าวที่มีอยู่พร่องลงไป จึงส่งผลให้ความสามารถในการทำงานที่ต้องใช้การควบคุมตนเองในงานต่อ ๆ ไปของบุคคลลดทอนลง เช่น ไม่สามารถดำเนินการตามเป้าหมายที่ตนเองประสงค์ได้

 

 


 

 

 

ข้อมูลจาก

 

จิรายุ เลิศเจริญวนิช. (2557). อิทธิพลของการควบคุมตนเองและการวางกรอบการตัดสินใจต่อเจตนาและพฤติกรรมเพื่อส่วนรวมในภาวะยุ่งยากสองด้านทางสังคม [วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]. คลังปัญญาจุฬาฯ. https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:20842

 

ธนัชพร วุฒิพงศ์. (2557). อิทธิพลของการกำกับการแสดงออกของตนและการพร่องในการควบคุมตนต่อการคล้อยตามสิ่งชี้นำในกระบวนการซักถาม [วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]. คลังปัญญาจุฬาฯ. https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:20845

คณะจิตวิทยาลงนามความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ (MOU) กับ Tohoku University (2567)

 

ในวันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2567 เวลา 11.30 น. (เวลาประเทศญี่ปุ่น) ตัวแทนคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดย ผศ. ดร.ณัฐสุดา เต้พันธุ์ คณบดีคณะจิตวิทยา ได้เข้าร่วมการประชุม กับตัวแทน Graduate School of Arts and Letters, The Faculty of Arts and Letters มหาวิทยาลัยโทโฮกุ Prof. Toshiaki Kimura, Ph.D. คณบดี และได้ร่วมลงนามในบันทึกการตกลง (MOU) ความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนทางวิชาการระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยโทโฮกุ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางวิชาการ ในการแลกเปลี่ยนนิสิตและนักวิจัย และการจัดการประชุมวิชาการทางจิตวิทยาร่วมกัน

 

แขกผู้มีเกียรติที่ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามครั้งนี้ ได้แก่ Prof. Zahrotur Rusyda Hinduan, Ph.D. (Dean of Faculty of Psychology, Padjadjaran University), และ Prof. Chung-Hsi Lee, Ph.D. (Dean of College of Humanities and Social Sciences, Taipei Medical University) และคณาจารย์และนักศึกษาคณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยปัจจารัน มหาวิทยาลัยไทเปเมดิคอล มหาวิทยาลัยโทโฮกุ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

 

 

คณะจิตวิทยา​เข้าร่วมประชุมวิชาการนานาชาติ​ในหัวข้อ Health​ and​ well-being ณ มหาวิทยาลัย​โท​โฮ​กุ​ เมืองเซนได ประเทศ​ญี่ปุ่น

 

วันที่ 17-19 กันยายน 2567 ผศ. ดร.ณัฐสุดา เต้พันธ์ คณบดีคณะจิตวิทยา​ อ. ดร.เจนนิเฟอร์ ชวโนวานิช รองคณบดี​ ผศ. ดร.สมบุญ จารุเกษมทวี ผู้ช่วย​คณบดี นำคณาจารย์​และนิสิตคณะจิตวิทยา​เข้าร่วมประชุมวิชาการนานาชาติ​ในหัวข้อ Health​ and​ well-being ณ มหาวิทยาลัย​โท​โฮ​กุ​ เมืองเซนได ประเทศ​ญี่ปุ่น

 

งานประชุม​วิชาการ​นี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง 5 หน่วยงาน 4 มหาวิทยาลัย​ ประกอบด้วย​

  • Graduate School of Arts and Letters, Tohoku University
  • Advanced Institute for SO–GO–CHI Informatics, Tohoku University
  • Faculty of Psychology, Chulalongkorn University
  • College of Humanities and Social Sciences, Taipei Medical University
  • Faculty of Psychology, Padjadjaran University, Indonesia

 

https://www.tfc.tohoku.ac.jp/event/4303.html

 

 

 

 

 

ภาพจาก https://www.facebook.com/TohokuForumforCreativity

 

Launch of Here to Heal Phase 2 – Enhancing and Expanding the Online Mental Health Consultation and Referral Network

 

The Faculty of Psychology at Chulalongkorn University, with support from the Thai Health Promotion Foundation (ThaiHealth), has launched the “Enhancing and Expanding the Online Mental Health Consultation System and Referral Network Project”, known as Here to Heal Phase 2. This initiative builds on the success of Phase 1, which provided mental health consultations to over 3,401 individuals through messaging services, with mental health volunteers offering basic emotional support online. The project also established a referral network for mental health services, organized mental health promotion activities, provided mental health education, and developed a mental health referral system.

 

In Here to Heal Phase 2, the Faculty of Psychology is committed to enhancing the primary mental health consultation system through its online platform, the Mental Health Online Service (MOS), making it more comprehensive. This service will address basic mental health inquiries, offer primary psychological consultations, and facilitate seamless referrals by connecting with mental health service networks across all regions. Additionally, the project aims to build the capacity of volunteers and expand the network of mental health consultants nationwide, increasing public access to free mental health services.

 

Stay tune for updates and services by visiting Here to Heal page

แสดงความยินดีครบรอบ 42 ปี แห่งการสถาปนาสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์

 

วันที่ 13 กันยายน 2567 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประพิมพา จรัลรัตนกุล รองคณบดีคณะจิตวิทยา พร้อมด้วยคุณวีระยุทธ กุลสุวิพลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ร่วมแสดงความยินดีครบรอบ 42 ปี แห่งการสถาปนาสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ อาคารศศปาฐศาลา สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์

 

พิธีมอบโล่สามศร ประจำปี 2567 เนื่องในโอกาสวันสถาปนามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ครบ 46 ปี

 

เนื่องในโอกาสวันสถาปนามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ครบ 46 ปี ในวันที่ 5 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ศูนย์สุขภาวะทางจิต คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับเกียรติรับมอบโล่สามศร อันเป็นตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เพื่อเป็นการยกย่องและเชิดชูเกียรติแก่ศูนย์สุขภาวะทางจิตฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือ สนับสนุนและทำคุณประโยชน์ให้แก่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชมาอย่างต่อเนื่องยาวนานจนถึงปัจจุบัน ด้วยผลงาน เกียรติประวัติ และคุณูปการอย่างอเนกอนันต์ที่ศูนย์สุขภาวะทางจิต คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีต่อมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ทางมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจึงเห็นสมควรให้ศูนย์สุขภาวะทางจิต คณะจิตวิทยา โดย ผู้ช่วยศาสตร์จารย์ ดร.ณัฐสุดา เต้พันธ์ คณบดีคณะจิตวิทยา รับเกียรติเป็นตัวแทนรับโล่สามศร ณ ห้องพระปกเกล้า อาคารอเนกนิทัศน์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

 

ในการนี้ ศูนย์สุขภาวะทางจิตฯ ขอขอบคุณและแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 46 ปี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มา ณ โอกาสนี้

 

 

 

 

นิสิตปริญญาเอก แขนงวิชาจิตวิทยาสังคม ได้รับรางวัล “Leadership in Design Excellence in Asia Pacific Award” 2024

 

คณะจิตวิทยาขอแสดงความยินดีกับ คุณกุสุมา ลีลานราธิวัฒน์ นิสิตปริญญาเอก แขนงวิชาจิตวิทยาสังคม ที่ได้รับรางวัล “Leadership in Design Excellence in Asia Pacific Award” โดย Global Entrepreneurs Association ร่วมกับ IEDRA Global (International Economic Development & Research Association) ประจำปี 2024
รางวัลดังกล่าวมาจากผลงานการเป็น Director ออกแบบ Centre ของสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ที่ส่งเสริมแนวคิดเรื่องการออกแบบระบบ (system design) และระบบสำหรับการออกแบบ (design system) ที่ประยุกต์กับการสร้างชาติ การพัฒนาสังคม อันเป็นแนวคิดด้านการออกแบบที่แตกต่างจากการออกแบบโดยทั่วไป

การเปิดเผยตนเอง – Self-disclosure

 

การเปิดเผยตนเอง หมายถึง การที่บุคคลเปิดเผยความคิด ความรู้สึก รวมถึงข้อมูลของตนเองต่อผู้อื่น เพื่อให้เกิดความเข้าใจและไว้วางใจกับระหว่างบุคคล ซึ่งนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

 

หากบุคคลเปิดเผยตนเองอย่างเหมาะสม ถูกกาลเทศะ จะได้รับประโยชน์อย่างมาก เนื่องจาก

 

  • การเปิดเผยตนเองถือเป็นการระบายความรู้สึกและอารมณ์ของบุคคล ช่วยให้บุคคลสบายใจมากขึ้น ส่งผลให้สุขภาพจิตดีขึ้น
  • การเปิดเผยตนเองยังช่วยในการเปรียบเทียบตนเองกับมาตรฐานทั่วไปของสังคม ในด้านความคิด ความรู้สึก หรือสิ่งที่บุคคลปฏิบัติในสังคม โดยสามารถพิจารณาได้จากปฏิกิริยาตอบสนองจากผู้อื่น การเปิดเผยตนเองจึงเสมือนเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บุคคลเข้าใจในสิ่งที่ตนควรทำและไม่ควรทำได้ดีขึ้น
  • การเปิดเผยตนเองช่วยเพิ่มการตระหนักในตนเอง ทำให้บุคคลเข้าใจเกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น ทำให้ส่วนที่เราไม่รู้เกี่ยวกับตนเองลดลง ซึ่งจะเกิดจากการที่บุคคลทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำพูดของตนเอง รวมถึงการได้รับ feedback จากผู้อื่นด้วย
  • การเปิดเผยตนเองในการสื่อสารระหว่างบุคคล ทำให้คู่สื่อสารสามารถสื่อสารได้ตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • นอกจากนี้ การเปิดเผยตัวเองโดยเฉพาะเกี่ยวกับประสบการณ์ในอดีต สามารถใช้เป็นข้อแนะนำหรืออุทธาหรณ์ให้แก่ผู้อื่นได้

 

อย่างไรก็ตาม หากการเปิดเผยตนเองนั้นไม่เหมาะสมหรือรวดเร็วเกิดไป ก็อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงได้ ดังนั้น บุคคลไม่ควรเปิดเผยตนเองรวดเร็วเกิดไป และลักษณะสภาพแวดลล้อมต่าง ๆ ในการเปิดเผยตนเองจำเป็นต้องก่อให้เกิดความไว้วางใจต่อกัน โดยเริ่มจากการเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นทั่ว ๆ ไปก่อน และก่อนการเปิดเผยข้อมูลที่มีความลึกซึ้ง จำเป็นต้องดูการตอบสนองของฝ่ายตรงข้ามด้วย หรือสังเกตจากข้อมูลที่ฝ่ายตรงข้ามเปิดเผยแก่เรา

 

สรุปได้ว่า การเปิดเผยตนเองช่วยเพิ่มความไว้วางใจ เพิ่มความใกล้ชิด เพิ่มการเห็นคุณค่าในตน เพิ่มความปลอดภัย และช่วงส่งเสริมความงอกงามของบุคคล ขณะที่ความเสี่ยงที่จะได้รับจากการเปิดเผยตนเอง ได้แก่ การถูกผู้อื่นปฏิเสธ ถูกผู้อื่นดูถูก และถูกผู้อื่นทำลายความเชื่อมั่นของเรา

 

 

 

 

Joseph และ Harrison ได้สร้างหน้าต่าง Johari Window เพื่ออธิบายถึงการเปิดเผยตนเองต่อคู่สื่อสารไว้ดังนี้

 

  1. บริเวณเปิด (open) – เป็นบริเวณที่ตนเองรู้และคนอื่นรู้ จึงทำให้ความสัมพันธ์ของคู่สื่อสารมีมาก และย่อมทำให้มีการเปิดเผยตนเองมากยิ่งขึ้น เช่น สีผิว สีดวงตา เพศ อายุ หรือพฤติกรรมของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่บุคคลอื่นรับรู้ได้ และหากต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันให้มีมากขึ้น แต่ละฝ่ายจะต้องพยายามเปิดเผยข้อมูลของกันและกันให้รับรู้ด้วย
  2. บริเวณจุดบอด (blind) – เป็นบริเวณที่คนอื่นรู้แต่ตนเองกลับไม่รู้ เช่น บางคนขมวดคิ้วเวลาโกรธ บางคนเผลอกัดเล็บเมื่อตื่นเต้น ซึ่งเป็นอาการที่ทำไปโดยไม่รู้ตัว หากบุคคลรู้จุดบอดของตนเองก็จะสามารถพัฒนาการสื่อสารระหว่างบุคคลได้ ด้วยการยอมรับปฏิกิริยาตอบกลับของผู้อื่นต่อพฤติกรรมของตนที่ได้แสดงออก และพร้อมที่จะพัฒนาเพื่อขจัดให้จุดบอดนี้ลดน้อยลง
  3. บริเวณซ่อนเร้น (hidden) – เป็นบริเวณที่ตนเองรู้แต่คนอื่นไม่รู้ เป็นลักษณะปกปิดข้อมูลไม่อยากให้คนอื่นทราบ เป็นเรื่องราวที่เป็นความลับของตน เช่น ความฝัน ประสบการณ์น่าอับอายของตน แต่ข้อมูลดังกล่าวจะถูกเปิดเผยให้กับบางคนที่บุคคลไว้วางใจและใกล้ชิดสนิทสนมคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
  4. บริเวณที่ไม่รู้ (unknown) – เป็นบริเวณที่ทั้งตนเองและผู้อื่นไม่รู้ ทำให้ไม่รู้จักตนเอง โดยเป็นสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องลึกภายใต้จิตสำนึกของตนเรา ปมด้อยบางอย่างที่ตนเองไม่เคยรู้ แต่บริเวณนี้ก็สามารถทำให้ลดลงได้แม้ไม่รู้ โดยการสื่อสารระหว่างบุคคลให้มากขึ้น เพื่อดึงสิ่งเหล่านั้นออกมาหรือลบจุดด้อยให้ลดลง

 

ทั้งนี้ อาณาเขตทั้งสี่ของแต่ละบุคคลจะไม่เท่ากัน และแตกต่างกันตามลักษณะของบุคคล อาณาเขตดังกล่าวเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นจะส่งผลถึงระดับการเปิดเผยตนเองของบุคคล เช่น หากอาณาเขตของบริเวณที่เปิดเผยมาก ก็จะส่งผลให้อาณาเขตของส่วนอื่นลดลง และส่งผลต่อระดับการเปิดเผยตนเองที่สูงขึ้นของบุคคลนั้น

 

 


 

 

ข้อมูลจาก

 

ฐิติภูมิ งามสมจันทร์, ธนาภรณ์ กองพล, & เอมิกา รุ่งวานิชการ. (2553). อิทธิพลของแรงจูงใจใฝ่สัมพันธ์ แรงจูงใจใฝ่ใกล้ชิด การเปิดเผยตนเองและการเห็นคุณค่าในตนเองต่อการใช้แอพพลิเคชั่น “การรับเพื่อน” ในเฟชบุ๊ก [โครงการวิชาการวิทยาศาสตรบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]. คลังปัญญาจุฬาฯ. https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:9115

 

ณัฐรดา อยู่ศิริ, สุพิชฌาย์ นันทภานนท์, & หทัยพร พีระชัยรัตน์. (2557). ความสัมพันธ์ระหว่างการเปิดเผยตนเอง ความเหงา และการทำหน้าที่ของครอบครัวต่อพฤติกรรม การเสพติดอินเทอร์เน็ต [โครงการวิชาการวิทยาศาสตรบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]. คลังปัญญาจุฬาฯ. https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:9260