ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ยังคุกรุ่น เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยสำหรับคนเป็นพ่อแม่ ที่จะอธิบายให้ลูก ๆ เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น โดยที่เขาจะไม่รู้สึกกลัว สับสน หรือหมดหวังกับโลกใบนี้ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เด็ก ๆ รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ มากกว่าที่เราคิด ทั้งข่าวจากโทรทัศน์ การพูดคุยของผู้ใหญ่ในบ้าน หรือแม้แต่คลิปในโซเชียลมีเดียที่เลื่อนผ่านตา คำถามอย่าง “ทำไมเขาทำร้ายกัน?” หรือแม้แต่ “พรุ่งนี้เราจะปลอดภัยไหม?” อาจผุดขึ้นในใจลูก โดยที่เขาเองก็ไม่กล้าพูดออกมา
คำถามคือ…เราจะอธิบายกับลูกอย่างไรดี?
บางครั้ง คำตอบที่เราให้ อาจไม่ต้องซับซ้อน หรือลงรายละเอียดมากนัก เพียงแค่เรานั่งลงข้าง ๆ รับฟังความคิดความรู้สึกของลูกโดยไม่ตัดสิน อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยภาษาที่เข้าใจได้ง่าย และยืนยันว่า “หนูจะปลอดภัย และพ่อแม่จะอยู่ตรงนี้เสมอ” ก็อาจเพียงพอแล้ว
ใจความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือเราต้องไม่สร้างความกลัว หรือความตื่นตระหนกในใจลูก แต่ควรปลูกฝังความเห็นอกเห็นใจ ความหวัง และความเคารพในความเป็นมนุษย์ของทุกคน เพื่อทำให้เขาเห็นว่า แม้โลกใบนี้จะมีความขัดแย้ง แต่ก็ยังมีผู้คนมากมายที่พยายามช่วยเหลือกันซึ่งกันและกัน
แนวทางการพูดคุยกับลูก : ข้อมูลจาก UNICEF และสมาคมจิตวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา
DOs
- ตั้งคำถามก่อน แล้วให้เด็กเล่า อาจเริ่มถามว่าเด็กเข้าใจหรือรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับข่าวหรือสถานการณ์ แล้วฟังโดยไม่ตัดความรู้สึกของเด็ก
- ใช้ภาษาที่เหมาะสมกับวัย เลือกคำพูดเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และใช้น้ำเสียงที่สงบไม่ตื่นเต้น หรือปลุกเร้าอารมณ์ทางลบ
- สนับสนุนให้เด็กแสดงความเห็นอกเห็นใจ สอนเด็กให้เห็นถึงคนที่ช่วยเหลือผู้อื่น และให้เด็กมีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เช่น การบริจาค
- สร้างความรู้สึกปลอดภัยแก่เด็ก โดยยืนยันว่าเด็กอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่ มีความมั่นคง และมีความปลอดภัยเสมอ
- เปิดโอกาสให้เด็กถามและพูดความรู้สึก ให้พื้นที่เด็กสามารถถามคำถาม และพูดถึงความกลัวหรือความสับสนโดยไม่มีการตัดสิน เช่น ถ้าเด็กบอกว่าเขากลัว หรือเศร้า อย่าตอบว่า “อย่าคิดมาก” แต่ควรพูดว่า “เป็นเรื่องปกติมากเลยที่จะรู้สึกแบบนั้น”
- สังเกตและดูแลสุขภาพจิต ให้ความสำคัญกับอาการเครียด หากเด็กมีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น นอนไม่หลับ กลัวเสียงดัง หรือถอนตัวจากกิจกรรม ควรพาไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตโดยเร็ว
DON’Ts
- อย่าพูดมากจนเด็กฟังไม่ทัน หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลจำนวนมาก ๆ ในคราวเดียว และควรหลีกเลี่ยงคำพูดที่ก่อให้เกิดภาพน่ากลัวในใจเด็ก เช่น “เขาทำร้ายกันอย่างโหดเหี้ยม”
- อย่าหลอกหรือให้ข้อมูลเกินจริง เช่น อย่าโกหกว่า “ไม่มีอะไร” หรือหลีกเลี่ยงคำถาม แต่ควรตอบด้วยความจริงตามวัยของเด็ก
- อย่าบังคับให้เด็กพูดหรือวาดภาพประสบการณ์ที่เจ็บปวด และไม่ควรบังคับกิจกรรมที่ทำให้เด็กรู้สึกเครียดขึ้น แต่ต้องให้เขามีสิทธิ์เลือกแสดงออกตามความพร้อม
- อย่าเลี่ยงคำถามของเด็กหรือพูดไม่ตรงประเด็น อย่าปัดคำถาม หรือตอบไม่ตรงประเด็น เพราะอาจทำให้เด็กรู้สึกว่าถูกละเลย
- อย่ากังวลจนแสดงออกมาให้เด็กเห็น เพราะเด็กอาจได้รับอารมณ์นั้นจากผู้ใหญ่ ควรแสดงความมั่นใจให้เขารู้ว่าเราควบคุมสถานการณ์ได้
- อย่าคุยเพียงครั้งเดียวแล้วจบ ควรสร้างช่องให้เด็กเล่าเพิ่มเติมและติดตามอาการทางอารมณ์ต่อเนื่อง เด็กอาจมีคำถามเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นควรสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างในการพูดคุย