ความดึงดูดใจระหว่างบุคคล คือ แนวโน้มของบุคคลที่มีต่อการประเมินบุคคลหรือสัญลักษณ์ของบุคคลนั้นในทางบวกหรือทางลบ และอาจรวมถึงความรู้สึกและแนวโน้มของพฤติกรรมที่จะเข้าหาหรือหลีกเลี่ยงบุคคลนั้น
การอยู่ร่วมกันในสังคม ปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่นำไปสู่ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในสังคม ประเด็นสำคัญที่มีส่วนทำให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลคือความรู้สึกประทับใจที่เกิดขึ้นเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กัน ซึ่งความดึงดูดใจระหว่างบุคคลเป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้บุคคลเกิดความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ถ้าแต่ละฝ่ายสามารถสร้างความชอบพอดึงดูดใจต่อกันได้ ย่อมเป็นโอกาสที่ดีต่อความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความชอบพอดึงดูดในนั้นมีดังต่อไปนี้
1. ความใกล้ชิดสนิทสนม (Proximity)
การที่บุคคลได้พบปะกันบ่อย ๆ เปิดโอกาสให้ต่างฝ่ายต่างได้เรียนรู้กันมากขึ้น ทำให้ค้นพบว่ามีความสนใจ ความคิดเห็น และค่านิยมที่คล้ายคลึงกัน
2. ความคล้ายคลึง (Similarity)
เราชอบคนที่คล้ายคลึงกับเรา ไม่ว่าทางด้านเจตคติ ค่านิยม ความเชื่อ รวมไปถึงลักษณะทางสังคมวิทยา เช่น อายุ การศึกษา สถานภาพทางสังคม ยิ่งบุคคลมีความคล้ายคลึงกันมากเท่าไร ก็มีผลต่อความดึงดูดใจระหว่างกันมากยิ่งขึ้น อาจเป็นเพราะเราชอบความสัมพันธ์ที่สอดคล้องหรือสมดุล อีกทั้งคนที่มีความคล้ายคลึงกับเรายังช่วยสนับสนุนและยืนยันความถูกต้องต่อเจตคติและความเชื่อของเรา
3. การตอบแทนกัน (Reciprocity)
การที่เรารับรู้ว่าบุคคลอื่นนั้นชอบเรา เรามักจะชอบเขาตอบ และในทางตรงกันข้ามเมื่อเรารับรู้ว่าบุคคลนั้นไม่ชอบเรา เราก็มักจะไม่ชอบเขาเช่นกัน ความรู้สึกเหล่านี้เป็นการย้อนกลับซึ่งกันและกัน
4. ความดึงดูดในทางกายภาพ (Physical attractiveness) และ ลักษณะส่วนบุคคล (Personal characteristic)
สิ่งที่ปรากฏทางกายภาพเป็นสิ่งแรกที่เราสามารถสังเกตเห็น และเราตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของการรับรู้ว่า “สิ่งที่สวยงามเป็นสิ่งที่ดี” ธรรมชาติของคนเรามักชอบสิ่งที่สวยงามและมีแนวโน้มจะมีความลำเอียงไปทางบุคคลหรือสิ่งที่สวยงามได้ง่ายกว่า โดยการวิจัยพบว่าความดึงดูดใจทางกายภาพมีอิทธิพลต่อคนเราไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง แม้ว่าความต้องการคู่ครองที่มีความดึงดูดใจทางกายภาพของเพศหญิงจะมีน้อยกว่าของเพศชายก็ตาม
5. การเติมเต็มซึ่งกันและกัน (Complementarity)
เมื่อความต้องการของบุคคลสองคนเป็นไปในลักษณะที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน ความดึงดูดใจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ ความต้องการของบุคคลทั้งสองจะเติมเต็มซึ่งกันและกันได้ก็ต่อเมื่อ 1) ความต้องการนั้นมีความแตกต่างไปในเรื่องของประเภท แต่มีระดับความต้องการพอ ๆ กัน เช่น คนที่ชอบดูแลผู้อื่นมากย่อมเข้าคู่กับคนที่ต้องการการดูแลมาก 2) ความต้องการนั้นจัดอยู่ในประเภทเดียวกัน แต่มีระดับของความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น คนที่ชอบควบคุมผู้อื่นย่อมชอบพอคนที่ไม่ต้องการควบคุมใคร
ข้อมูลจาก
ธนิตา เบ็งสงวน. (2551). อิทธิพลของการพึ่งพาทางอารมณ์ เจตคติต่อบุคคลที่สาม และความคล้ายคลึงต่อความดึงดูดใจระหว่างบุคคล [วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]. คลังปัญญาจุฬาฯ. https://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2008.258
อนุรักษ์ แท่นทอง. (2548). ความดึงดูดใจระหว่างบุคคลและรูปแบบความผูกพัน: รูปแบบที่คล้ายคลึงกับตน รูปแบบที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน และรูปแบบความผูกพันแบบมั่นคง [วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]. คลังปัญญาจุฬาฯ. https://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2005.173