เพศกับการเลือกสาขาวิชา: ภาพจำกับข้อมูลจริงในสังคมไทย

05 Sep 2025

อาจารย์ ดร.ศุภณัฐ ศรีอุทัยสุข

 

เรื่องเพศยังคงมีความสัมพันธ์กับการเลือกศึกษาต่อและการประกอบอาชีพในสังคมไทย เนื่องจากภาพจำทางสังคมมักมองว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนโยนและละเอียดอ่อน จึงถูกมองว่าเหมาะกับงานที่ต้องอาศัยการดูแลเอาใจใส่และความเข้าอกเข้าใจ เช่น พยาบาลหรือครู ขณะที่ผู้ชายมักถูกมองว่ามีความถนัดด้านตรรกะและภาวะผู้นำ จึงถูกมองว่าเหมาะกับอาชีพอย่างวิศวกรหรือนักบิน

 

งานวิจัยของผู้เขียนที่สำรวจ “ภาพเหมารวมทางเพศ” (gender stereotypes) ของนักเรียนไทย พบว่า นักเรียนมัธยมปลายมีความเชื่อว่าแต่ละสาขาวิชานั้นมีความเหมาะกับเพศที่แตกต่างกัน โดยนักเรียนจำนวนมากเห็นว่าผู้ชายเหมาะกับการเขียนโปรแกรม (ร้อยละ 78) และวิศวกรรมศาสตร์ (ร้อยละ 90) ขณะที่ผู้หญิงเหมาะกับมนุษยศาสตร์และอักษรศาสตร์ (ร้อยละ 90) ที่น่าสนใจคือ นักเรียนจำนวนไม่น้อยมองว่าผู้หญิงเหมาะกับวิทยาศาสตร์ (ร้อยละ 66) และคณิตศาสตร์ (ร้อยละ 60) มากกว่าผู้ชาย ดังที่แสดงในภาพด้านล่าง

 

 

 


หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำมาแสดงเป็นข้อมูลของนักเรียนที่เชื่อว่ากิจกรรมหรือสาขาวิชาเหมาะสมกับเพศใดเพศหนึ่ง โดยตัดข้อมูลของผู้ที่มองว่าเหมาะกับทั้งสองเพศ และข้อมูลสูญหายออก เหลือจำนวนดังนี้ การเขียนโปรแกรม 240 คน วิศวกรรมศาสตร์ 542 คน มนุษยศาสตร์/อักษรศาสตร์ 336 คน วิทยาศาสตร์ 183 คน และคณิตศาสตร์ 166 คน จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 906 คน (85% เพศหญิง)

 

 

 

คำถามที่ตามมาคือ ภาพจำเหล่านี้สอดคล้องกับความเป็นจริงหรือไม่? เมื่อเปรียบเทียบผลสำรวจนี้กับข้อมูลสถิติการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในช่วงปี พ.ศ. 2550-2567 จากสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (2568) พบว่า ภาพจำของนักเรียนมัธยมปลายมีความใกล้เคียงกับความเป็นจริงของบัณฑิตในสาขาต่าง ๆ ของประเทศไทย

 

ในกลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เช่น เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ และสถิติ พบว่าผู้หญิงมีสัดส่วนการสำเร็จการศึกษาสูงอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 60-80% ตั้งแต่ปี 2550 ดังแสดงในภาพด้านล่าง

 

 

 

 

 

นอกจากนี้ ผู้หญิงก็ครองสัดส่วนในสาขาที่เกี่ยวข้องกับภาษา เช่น ภาษาเกาหลี จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส รวมถึงภาษาอังกฤษ สูงถึง 75-90% มาโดยตลอด ดังภาพ

 

 

 

 

 

ในทางตรงกันข้าม ข้อมูลสถิติชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงมีสัดส่วนน้อยในสาขาวิศวกรรมแทบทุกแขนง อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาการเปลี่ยนแปลงตลอดช่วง 15 ปีที่ผ่านมา จะพบว่าสัดส่วนผู้หญิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอย่างต่อเนื่องดังภาพด้านล่าง

 

 

 

 

 

 

ข้อค้นพบที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ สัดส่วนผู้หญิงกลับมีแนวโน้มลดลงในสาขาที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และการเขียนโปรแกรม โดยเฉพาะสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ซึ่งในอดีตมีจำนวนผู้หญิงและผู้ชายใกล้เคียงกัน แต่ปัจจุบันผู้หญิงสำเร็จการศึกษาเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น ใกล้เคียงกับสัดส่วนในสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์

 

 

 

 

 

ข้อมูลข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า ความเชื่อของนักเรียนที่ว่าสาขาใดเหมาะกับเพศใด อาจมีผลต่อการเลือกเส้นทางการศึกษาในระดับอุดมศึกษา และท้ายที่สุดอาจส่งผลต่อโครงสร้างกำลังคนในตลาดแรงงานจริงของประเทศ หากสังคมยังคงมีความเชื่อว่าสาขาใด “เหมาะกับผู้ชาย” หรือ “เหมาะกับผู้หญิง” ย่อมทำให้โอกาส และความหลากหลายในการพัฒนาทางวิชาชีพถูกจำกัดลง

 

ดังนั้น การสร้างความเข้าใจใหม่ว่า “ทุกคนสามารถเรียนได้ทุกสาขาวิชา” จึงอาจเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ แต่ยังเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เลือกเส้นทางที่สอดคล้องกับความสนใจ และศักยภาพที่แท้จริงของตนเอง

 

 

 


 

 

 

ผู้เขียน

 

อาจารย์ ดรศุภณัฐ ศรีอุทัยสุข อาจารย์ประจำแขนงวิชาจิตวิทยาเชิงปริมาณ
ดร.ธนัชพร จรัสจรุงเกียรติ และ ดร.พิมพ์มาดา เจริญศิลป์ นักวิจัยหลังปริญญาเอก

 

 

 

รายการอ้างอิง

 

ศุภณัฐ ศรีอุทัยสุข. (2568). ความสัมพันธ์ระหว่างภาพเหมารวมทางเพศ การรับรู้ตนเอง และผลลัพธ์ด้านสะเต็มในนักเรียนไทย [รายงานการวิจัยที่ยังไม่ตีพิมพ์]. คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. (2568). สถิติผู้สำเร็จการศึกษา. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. https://info.mhesi.go.th/stat_graduate.php

แชร์คอนเท็นต์นี้