ข่าวและกิจกรรม

แสดงความยินดี เนื่องในโอกาสครบรอบ 63 ปี แห่งการสถาปนาบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาฯ

 

วันที่ 1 สิงหาคม 2568 ผศ. ดร.ณัฐสุดา เต้พันธ์ คณบดีคณะจิตวิทยา พร้อมด้วย คุณวีระยุทธ กุลสุวิพลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร และคุณเวณิกา บวรสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ คณะจิตวิทยา ร่วมแสดงความยินดีกับ รองศาสตราจารย์ ดร.ธิติ บวรรัตนารักษ์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย คณะผู้บริหารและบุคลากร เนื่องในโอกาสครบรอบ 63 ปี แห่งการสถาปนาบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ อาคารเฉลิมราชกุมารี(จามจุรี 10) ชั้น 20 จุฬาฯ

 

 

 

 

 

จะพูดคุยกับลูกเรื่องความไม่สงบอย่างไรดี?

 

ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ยังคุกรุ่น เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยสำหรับคนเป็นพ่อแม่ ที่จะอธิบายให้ลูก ๆ เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น โดยที่เขาจะไม่รู้สึกกลัว สับสน หรือหมดหวังกับโลกใบนี้ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เด็ก ๆ รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ มากกว่าที่เราคิด ทั้งข่าวจากโทรทัศน์ การพูดคุยของผู้ใหญ่ในบ้าน หรือแม้แต่คลิปในโซเชียลมีเดียที่เลื่อนผ่านตา คำถามอย่าง “ทำไมเขาทำร้ายกัน?” หรือแม้แต่ “พรุ่งนี้เราจะปลอดภัยไหม?” อาจผุดขึ้นในใจลูก โดยที่เขาเองก็ไม่กล้าพูดออกมา

 

คำถามคือ…เราจะอธิบายกับลูกอย่างไรดี?

 

บางครั้ง คำตอบที่เราให้ อาจไม่ต้องซับซ้อน หรือลงรายละเอียดมากนัก เพียงแค่เรานั่งลงข้าง ๆ รับฟังความคิดความรู้สึกของลูกโดยไม่ตัดสิน อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยภาษาที่เข้าใจได้ง่าย และยืนยันว่า “หนูจะปลอดภัย และพ่อแม่จะอยู่ตรงนี้เสมอ” ก็อาจเพียงพอแล้ว

 

 

ใจความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือเราต้องไม่สร้างความกลัว หรือความตื่นตระหนกในใจลูก แต่ควรปลูกฝังความเห็นอกเห็นใจ ความหวัง และความเคารพในความเป็นมนุษย์ของทุกคน เพื่อทำให้เขาเห็นว่า แม้โลกใบนี้จะมีความขัดแย้ง แต่ก็ยังมีผู้คนมากมายที่พยายามช่วยเหลือกันซึ่งกันและกัน

 

 

แนวทางการพูดคุยกับลูก : ข้อมูลจาก UNICEF และสมาคมจิตวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา

 

 

DOs

 

  1. ตั้งคำถามก่อน แล้วให้เด็กเล่า อาจเริ่มถามว่าเด็กเข้าใจหรือรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับข่าวหรือสถานการณ์ แล้วฟังโดยไม่ตัดความรู้สึกของเด็ก
  2. ใช้ภาษาที่เหมาะสมกับวัย เลือกคำพูดเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และใช้น้ำเสียงที่สงบไม่ตื่นเต้น หรือปลุกเร้าอารมณ์ทางลบ
  3. สนับสนุนให้เด็กแสดงความเห็นอกเห็นใจ สอนเด็กให้เห็นถึงคนที่ช่วยเหลือผู้อื่น และให้เด็กมีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เช่น การบริจาค
  4. สร้างความรู้สึกปลอดภัยแก่เด็ก โดยยืนยันว่าเด็กอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่ มีความมั่นคง และมีความปลอดภัยเสมอ
  5. เปิดโอกาสให้เด็กถามและพูดความรู้สึก ให้พื้นที่เด็กสามารถถามคำถาม และพูดถึงความกลัวหรือความสับสนโดยไม่มีการตัดสิน เช่น ถ้าเด็กบอกว่าเขากลัว หรือเศร้า อย่าตอบว่า “อย่าคิดมาก” แต่ควรพูดว่า “เป็นเรื่องปกติมากเลยที่จะรู้สึกแบบนั้น”
  6. สังเกตและดูแลสุขภาพจิต ให้ความสำคัญกับอาการเครียด หากเด็กมีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น นอนไม่หลับ กลัวเสียงดัง หรือถอนตัวจากกิจกรรม ควรพาไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตโดยเร็ว

 

 

DON’Ts

 

  1. อย่าพูดมากจนเด็กฟังไม่ทัน หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลจำนวนมาก ๆ ในคราวเดียว และควรหลีกเลี่ยงคำพูดที่ก่อให้เกิดภาพน่ากลัวในใจเด็ก เช่น “เขาทำร้ายกันอย่างโหดเหี้ยม”
  2. อย่าหลอกหรือให้ข้อมูลเกินจริง เช่น อย่าโกหกว่า “ไม่มีอะไร” หรือหลีกเลี่ยงคำถาม แต่ควรตอบด้วยความจริงตามวัยของเด็ก
  3. อย่าบังคับให้เด็กพูดหรือวาดภาพประสบการณ์ที่เจ็บปวด และไม่ควรบังคับกิจกรรมที่ทำให้เด็กรู้สึกเครียดขึ้น แต่ต้องให้เขามีสิทธิ์เลือกแสดงออกตามความพร้อม
  4. อย่าเลี่ยงคำถามของเด็กหรือพูดไม่ตรงประเด็น อย่าปัดคำถาม หรือตอบไม่ตรงประเด็น เพราะอาจทำให้เด็กรู้สึกว่าถูกละเลย
  5. อย่ากังวลจนแสดงออกมาให้เด็กเห็น เพราะเด็กอาจได้รับอารมณ์นั้นจากผู้ใหญ่ ควรแสดงความมั่นใจให้เขารู้ว่าเราควบคุมสถานการณ์ได้
  6. อย่าคุยเพียงครั้งเดียวแล้วจบ ควรสร้างช่องให้เด็กเล่าเพิ่มเติมและติดตามอาการทางอารมณ์ต่อเนื่อง เด็กอาจมีคำถามเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นควรสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างในการพูดคุย

 

 

 

 

 

บทความโดย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หยกฟ้า อิศรานนท์
รองคณบดี อาจารย์ประจำแขนงวิชาจิตวิทยาสังคม และแขนงวิชาการวิจัยจิตวิทยาประยุกต์

บรรลุเป้าหมายแห่งความสำเร็จ ด้วยพลังแห่งความหวัง

 

เมื่อเราพูดถึงคำว่า “ความหวัง” เชื่อว่าทุกท่านมีความคุ้นเคยกับคำ ๆ นี้ ทุกท่านเคยสังเกตไหมคะว่าเรามักจะตั้งความหวังโดยใช้คำว่า “หวังว่า” เป็นประจำเมื่ออยู่ในเหตุการณ์ 2 ประเภทดังนี้

 

  1. เริ่มจะทำกิจกรรมที่สำคัญอะไรบางอย่าง เช่น “พรุ่งนี้จะสอบ หวังว่าจะทำข้อสอบได้คะแนนดีๆ” หรือ “เย็นนี้จะมีประชุมงานนัดสำคัญ หวังว่ารถจะไม่ติด”
  2. เมื่อประสบกับเหตุการณ์ทางลบ เช่น “หญิงสาววัยรุ่นถูกเพื่อนล้อว่าอ้วน ก็มักจะตั้งความหวังว่าจะลดน้ำหนักให้ผอมโดยเร็ว” หรือ “คนรักบอกเลิกไปมีคนอื่น ก็หวังว่าเราได้พบคนรักใหม่ที่ดีกว่าเดิม”

 

อย่างไรก็ตาม เราจะบรรลุเป้าหมายตามที่เราตั้งความหวังหรือไม่ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายประการค่ะ

 

ทฤษฎีความหวัง (Hope Theory) เสนอโดย Charles Richard Snyder (1994) กล่าวว่า “ความหวัง” เป็นคุณลักษณะทางจิตวิทยาทางบวกที่สำคัญของบุคคล ความหวังมีพลังในการขับเคลื่อนให้บุคคลลงมือทำพฤติกรรมต่าง ๆ อันจะนำไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ เมื่อบุคคลประสบความสำเร็จตามที่มุ่งหวังไว้ก็ส่งผลให้เกิดความสุขในชีวิต

 

ดังนั้น ความหวังในทัศนะของ Snyder (2000) จึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่ “อารมณ์ความรู้สึก” ที่เรามักจะพูดว่า “มีหวังลม ๆ แล้ง ๆ” ที่ดูเหมือนว่าไร้น้ำหนัก ไร้ทิศทาง แต่เป็นกระบวนการทางความคิด (cognitive process) ของบุคคลที่เน้นไปยังการลงมือปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้

 

 

ความหวังประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ คือ

 

1. เป้าหมาย (Goals):

 

ความหวังเริ่มต้นจากการที่บุคคลต้องมีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและมีความหมายเฉพาะตัวสำหรับบุคคลนั้น เช่น เป้าหมายของนักกีฬา คือ เหรียญทองในการแข่งขัน แต่ เป้าหมายของสาวรุ่นที่รับรู้ว่าตนเองน้ำหนักเกิน คือ น้ำหนักลดลง

 

สิ่งสำคัญของการตั้งเป้าหมาย คือ เป้าหมายเหล่านี้ต้องเกิดจากบุคคลความต้องการของบุคคลนั้นเอง ไม่มีใครบังคับ มีความน่าสนใจและท้าทายความสามารถในระดับหนึ่ง จึงจะช่วยกระตุ้นให้บุคคลมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการลงมือทำให้สำเร็จ

 

2. วิถีทาง (Pathways):

 

เมื่อมีเป้าหมายแล้ว บุคคลต้องสามารถมองเห็น “วิถีทาง” หรือแนวทางที่เป็นไปได้ในการไปสู่เป้าหมายนั้น วิถีทาง คือแผนการหรือกลยุทธ์ที่บุคคลเชื่อมั่นว่าจะนำพาตนเองไปสู่ความสำเร็จได้ การมีวิถีทางที่หลากหลายและยืดหยุ่น จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นว่าเป้าหมายนั้นสามารถบรรลุได้ แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรค เช่น หญิงสาววัยรุ่นที่รับรู้ว่าตนเองน้ำหนักเกิน ตั้งเป้าหมาย คือ น้ำหนักลดลง ดังนั้นแผนการไปสู่เป้าหมาย “น้ำหนักที่ลดลง” ต้องมีความหลากหลายเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมหลายด้าน เช่น ลดการดื่มเครื่องดื่มรสหวาน ลดการรับประทานอาหารเย็น และมีการออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย

 

ข้อแนะนำที่สำคัญคือ การลดปริมาณการกินอาหาร การเพิ่มเวลาและวิธีการออกกำลังกายต้องมีความยืดหยุ่นทั้งในด้านปริมาณและจำนวนครั้ง บุคคลต้องกำหนดปริมาณและจำนวนครั้งของการลดหรือเพิ่มพฤติกรรมที่จะนำไปสู่เป้าหมายอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้

 

3. พลังใจ (Agency):

 

คือความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง (Self-efficacy; Bandura, 1997) ในการจะลงมือทำตาม “วิถีทาง” ที่ตนวางไว้ วิธีการที่ช่วยส่งเสริมให้บุคคลมีความมั่นใจในตนเองและอดทนในการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย เช่น

 

3.1 ตั้งเป้าหมายย่อยๆ ที่สามารถทำแล้วประสบความสำเร็จได้ง่ายก่อน เราก็จะรู้สึกมั่นใจ มีพลังที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายที่ยากขึ้น มีความท้าทายอีกระดับที่สูงขึ้น เช่น การลดน้ำหนักด้วยวิธีการออกกำลังกายด้วยการเดินทุกวัน ขั้นแรกอาจตั้งเป้าหมายไว้ว่า เดินวัน เว้น วัน ให้ได้วันละ 1000 ก้าวก่อน หลังจากทำได้สำเร็จตามเป้าหมายแรกแล้ว ขั้นต่อไปเราจึงค่อย ๆ เพิ่มเป็น 2000 ก้าว เป็นต้น

 

3.2 หาตัวช่วย เช่น มีเพื่อนร่วมเดินออกกำลังด้วยกัน คอยให้กำลังใจ หรือกระตุ้นเตือนเมื่อถึงเวลาที่นัดกันไปเดินออกกำลัง นอกจากนี้ ตัวช่วยที่สำคัญและมีอิทธิพลอย่างมากในยุคสังคมออนไลน์ในปัจจุบันคือ Influencer หรือ บุคคลที่มีชื่อเสียงใน Platform ต่างๆ ที่เราชื่นชอบและเป็นตัวแบบในการลดน้ำหนักได้อย่างประสบความสำเร็จ เราจะได้รับข้อมูลจากบุคคลตัวแบบนั้นว่าท่านเหล่านั้นใช้เทคนิควิธีการอย่างไรในการประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก เฉพาะอย่างยิ่งเทคนิควิธีการที่บุคคลนั้นใช้เมื่อประสบปัญหาระหว่างทางก่อนที่จะบรรลุเป้าหมาย เราสามารถเรียนรู้และก็ปรับวิธีการนั้นมาใช้กับตัวเราได้

 

จากคำอธิบายข้างต้น ทุกท่านจะเห็นได้ว่า ทฤษฎีความหวัง เน้นให้เห็นว่า ความหวังไม่ใช่เพียงอารมณ์เชิงบวกอย่างเดียว หากแต่เป็นทักษะทางความคิดที่เราสามารถพัฒนาและฝึกฝนได้

 

การส่งเสริมให้บุคคลมีความหวังตามแนวทฤษฎีความหวัง จะช่วยเพิ่มความสามารถในการตั้งเป้าหมายที่ตรงกับความเป็นจริง มีวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน และที่สำคัญคือ มีความหวังอย่างเดียวไม่ได้ บุคคลจะต้องลงมือทำตามแผนการที่วางไว้ด้วยจึงจะทำให้ความหวังกลายเป็นความจริงได้

 

หากจะสรุปแนวคิดจิตวิทยาทางบวก (Positive psychology; Seligman, 2002) อาจกล่าวได้ว่า ความหวัง (Hope) เป็นคุณลักษณะหนึ่งที่ทำให้คุณเป็น HERO ของชีวิตตัวเองได้ กล่าวคือ คุณมีความหวัง (Hope) นั่นหมายความว่าคุณมีเป้าหมายในชีวิต คุณจะประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่วางแผนไว้ได้นั้น คุณต้องมีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง (Efficacy) คุณมั่นใจว่าคุณสามารถทำได้ เมื่อคุณอยู่ในระหว่างการเดินทางไปสู่เป้าหมายนั้น ๆ คุณอาจประสบกับปัญหา อุปสรรค ความท้าทายต่าง ๆ ในชีวิต การมีความหวังและความเชื่อมั่นในตนเองจะช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่น (Resilience) พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการต่าง ๆ ด้วยการปรับมุมมองเหตุการณ์ที่เลวร้ายต่าง ๆ นั้นในอีกแง่มุมที่เป็นบวก (Optimism) คุณก็จะมีพลังฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ จนบรรลุเป้าหมายที่ตั้งความหวังไว้ได้จริงอย่างแน่นอนค่ะ

 

 

 

อ้างอิง

 

Bandura, A. (1977). Self-efficacy: Toward a unifying theory of behavioral change. Psychological Review, 84(2), 191–215.

 

Seligman, M. E. P. (2002). Authentic Happiness: Using the New Positive Psychology to Realize Your Potential for Lasting Fulfillment. New York: Free Press

 

Snyder, C. R. (1994). The psychology of hope: You can get there from here. Free Press

 

Snyder, C.R. (2000). Handbook of Hope. Academic Press: San Diego, CA, USA.

 

 


 

 

บทความโดย

รองศาสตราจารย์ ดร.เรวดี วัฒฑกโกศล

อาจารย์ประจำแขนงวิชาจิตวิทยาพัฒนาการ

 

Psychological Science Special Talk on “Cyborg Psychology: Designing Human-AI Interactions for Promoting Human Flourishing”

 

You are cordially invited to the Psychological Science Special Talk on “Cyborg Psychology: Designing Human-AI Interactions for Promoting Human Flourishing” by Dr. Pat Pataranutaporn, Assistant Professor, Massachusetts Institute of Technology (MIT) Co-director of the Advancing Humans with AI research program at the MIT Media Lab July 22nd, 2025, from 9:00-12:00, Room 401 at The Faculty of Psychology, Chulalongkorn University.

 

Please register to reserve your seat at https://forms.office.com/r/FndtkTUdKN

 

 


Abstract:
Creating AI systems that augment human capabilities, psychological functioning, and promote personal and societal flourishing demands expertise in multiple research fields. My research takes an interdisciplinary, human-centered approach to the development of personal AI systems and the understanding of the complexity of human-AI interaction. More specifically, my research: (1) Creates novel AI prototypes through personalized multi-modal systems that support human flourishing by facilitating learning and enhancing well-being; (2) Examining the science of human augmentation by AI systems through large-scale experimental studies that reveal the effects of AI on human decision-making, sense-making, behavior, beliefs, sense of self, and other critical aspects; (3) Proposes new techniques including novel platforms and tools that others can use to implement human augmentation systems; and (4) Develops novel research methods that combine qualitative and quantitative analyses of human-AI interaction. The goal of my work is to establish a new discipline that focuses on the science of human-AI interaction for human augmentation and empowers AI developers with a more informed understanding of the implications of design choices for AI systems that interact with humans. My hope is to catalyze a new intellectual renaissance and contribute to the advancement of AI that benefits the human experience.

 

 

 

 


 

 

The Faculty of Psychology would like to express our sincere appreciation to our guest speaker, Asst. Prof. Pat Pataranutaporn, Ph.D., from the Massachusetts Institute of Technology (MIT), Co-director of the Advancing Humans with AI research program at the MIT Media Lab, as well as to all participants who attended the special lecture titled “Cyborg Psychology: Designing Human-AI Interactions for Promoting Human Flourishing” on July 22nd, 2025, from 9:00 AM to 12:00 PM at Room 401, Borommaratchachonnani Srisataphat Building, Faculty of Psychology, Chulalongkorn University.

 

 

คณะจิตวิทยาได้ร่วมออกบูทกิจกรรม Chula Care Day จุฬาฯ ห่วงใย ใกล้ชิดประชาชน ณ อุทยาน 100 ปี

 

วันที่ 22 ก.ค. 2568 คณะจิตวิทยาได้ร่วมออกบูทกิจกรรมกับ บ้านสุขภาพ จุฬาฯ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาฯ พร้อมกับคณะและหน่วยงานต่าง ๆ ในจุฬาฯในงาน Chula Care Day จุฬาฯ ห่วงใย ใกล้ชิดประชาชน ณ อุทยาน 100 ปี เวลา 8.00 – 12.00 น. ให้บริการตรวจสุขภาพและมีกิจกรรมเสริมความสุข ครอบคลุม 4 มิติ กาย ใจ งาน และเงิน เพื่อชีวิตที่สมดุลและยั่งยืน เนื่องในวันสากลแห่งการดูแลตัวเอง (Self-Care Day) โดยคณะจิตวิทยาได้มีการจัดกิจกรรมการประเมินและให้คำแนะนำสุขภาวะทางจิตใจ

 

 

 

 

 

 

 

เจริญสติ ตระหนักรู้ความเจ็บปวด

 

อาการปวดหลัง เป็นอาการเจ็บปวดที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสร้างความทุกข์ทรมาน ให้แก่ผู้คนเป็นจำนวนมาก จากการสำรวจของ Global Burden of Diseases ในปี 2017 พบว่าอาการปวดหลังเรื้อรัง (chronic back pain) ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลก ราว 577 ล้านคน ผลกระทบของอาการปวดหลังเรื้องรังทำให้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ มีคุณภาพชีวิตที่แย่ลง นอนไม่หลับ และ เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า อย่างไรก็ดี การศึกษาเรื่องการเจริญสติบำบัดอาจช่วยให้ผู้ป่วยรับมือกับอาการเจ็บปวดได้ดีมากยิ่งขึ้น

 

Jon Kabat-Zinn ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ นักวิจัยด้านการเจริญสติที่มีชื่อเสียง ได้ให้นิยามของสติว่า หมายถึง การตระหนักรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันโดยไม่ตัดสิน ในงานวิจัยหนึ่งของ Kabat-Zinn พบว่าการเจริญสติสามารถช่วยให้ผู้ป่วย จำนวน 90 คนมีอาการเจ็บปวดที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญได้ และ เมื่อติดตามผลอีก 4 ปีให้หลัง (follow-up) ก็พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผลการวิจัยดังกล่าว จึงนำไปสู่เทคนิคการบำบัดที่เรียกว่า ที่เรียกว่า “Mindfulness-Based Stress Reduction” (MBSR)

 

Mindfulness-Based Stress Reduction เป็นกระบวนการบำบัดที่ประกอบไปด้วย 2 ส่วน

  1. การฝึกสติสมาธิ (mindfulness meditation) โดยการตระหนักรู้ความคิด ความรู้สึก อารมณ์ โดยไม่ตัดสิน และ ฝึกตระหนักรู้อาการปวดตึงตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และ
  2. การฝึกโยคะ เพื่อยืดเหยียด และ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

 

งานวิจัยหนึ่งของ Morone และ คณะปี 2009 พบว่า กลุ่มตัวอย่างจำนวน 282 คน อายุมากกว่า 65 ขึ้นไป ได้รับการฝึกฝนเจริญสติตามแนวทางของ MBSR เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ โดยฝึกการเจริญสติสมาธิวันละ 45 นาที มีอาการปวดหลังที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับความรู้เรื่องสุขภาพ ดังนั้น การเจริญสติบำบัดอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลังเรื้อรัง แต่มีงบประมาณในการรักษาที่จำกัด เนื่องจาก การฝึกสติ เป็นวิธีการที่ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องใช้ยาช่วยลดความเจ็บปวด และ ไม่ต้องเสียค่าผ่าตัดราคาแพง อย่างไรก็ดี ผู้ที่มีอาการปวดหลังเรื้อรัง ควรขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

 

 

อ้างอิง

Agnus Tom, A., Rajkumar, E., John, R., & Joshua George, A. (2022). Determinants of quality of life in individuals with chronic low back pain: a systematic review. Health psychology and behavioral medicine, 10(1), 124–144. https://doi.org/10.1080/21642850.2021.2022487

 

James, S. L., Abate, D., Abate, K. H., Abay, S. M., Abbafati, C., Abbasi, N., … & Briggs, A. M. (2018). Global, regional, and national incidence, prevalence, and years lived with disability for 354 diseases and injuries for 195 countries and territories, 1990–2017: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2017. The lancet, 392(10159), 1789-1858.

 

Kabat-Zinn, J., Lipworth, L., Burncy, R., & Sellers, W. (1986). Four-year follow-up of a meditation-based program for the self-regulation of chronic pain: Treatment outcomes and compliance. The Clinical Journal of Pain, 2(3), 159-774.

 

Morone, N. E., Greco, C. M., Moore, C. G., Rollman, B. L., Lane, B., Morrow, L. A., Glynn, N. W., & Weiner, D. K. (2016). A Mind-Body Program for Older Adults With Chronic Low Back Pain: A Randomized Clinical Trial. JAMA internal medicine, 176(3), 329–337. https://doi.org/10.1001/jamainternmed.2015.8033

 

 

 


 

 

บทความโดย
คุณภัทรพงศ์ สุทธิรัตน์
นักจิตวิทยา

คณะจิตวิทยาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติ AICP 2025

 

คณะจิตวิทยาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการทางจิตวิทยาระดับนานาชาติ The 2nd Asian International Conference on Psychology (AICP) 2025 หัวข้อ “From Insight to Impact: Connecting Research for Better Health and Well-being” เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ณ ชั้น 4 อาคารบรมราชชนนีศรีศตพรรษ คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

โดยการประชุมนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง 4 สถาบัน ได้แก่

  • Faculty of Psychology, Chulalongkorn University
  • Graduate School of Arts and Letters, Tohoku University
  • College of Humanities and Social Sciences, Taipei Medical University
  • Faculty of Psychology, Universitas Padjadjaran

 

โดยการประชุม AICP 2026 จะถูกจัดขึ้นที่เมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่น โดย Tohoku University

 

 

 


 

 

กำหนดการ

 

8:00 AM—9:-00 AM
Registration (Reception Area)
9:00 AM—9:15 AM
Main Room
Welcome and Opening Speech
Asst. Prof. Nattasuda Taephant, Chulalongkorn University
9:20 AM—10:45 AM
Main Room
Main Panel Discussion
“From Insight to Impact: Evidence in Asia”
Discussants
– Prof. Nobuyuki Sakai, Department of Psychology, Tohoku University
– Dr. Anissa Lestari Kadiyono, M.Psi., Psikolog., University of Padjadjaran
– Asst. Prof. Matteo Martino, Taipei Medical University
– Assoc. Prof. Dr. Nanchatsan Sakunpong. Behavioral Science Research Institute of Srinakharinwirot University
Moderator
– Jennifer Chavanvoanich, Ph.D., Faculty of Psychology, Chulalongkorn University
10:45 AM—11:00 AM
Morning Break & Refreshments
11:00 AM—12:00 PM
Main Room
Panel Discussion
“Food for Better Well-Being”
The Thai Network for Sensory Science for Better Well-Being (SSBW)
Panelists
Prof. Nobuyuki Sakai, Department of Psychology, Tohoku University
Hisayuki Uneyama, Ph.D., Ajinomoto Co., Inc.
Panelist/Moderator
Asst. Prof. Nipat Pichayayothin, Faculty of Psychology, Chulalongkorn University
Breakout Room
Oral Presentation  Session A
ORAL Presentation 01
Modeling Psychologists’ Diagnostic Patterns for AI-Driven Mental Health Screening
Presenter: Karolina Lamtiur Dalimunthe, Universitas Padjadjaran
ORAL Presentation 02
Navigating the Research Treadmill in Indonesia: Addressing Back-to-Back Publication Burdens for Sustainable Well-being
Presenter: Yuliana Hanami, Universitas Padjadjaran
ORAL Presentation 03
Integrating AI and Technology in Psychology Education for Undergraduate Students from Generation Z in Indonesia: A Literature Review and Research Agenda
Presenter: Zahrotur Rusyda Hinduan, University of Padjadjaran
12:00 PM—1:00 PM
Lunch (3rd Floor)
1:00 PM—2:35 PM
Main Room
Oral Presentation B
ORAL Presentation 04
The Effect of Gratitude Journaling on Positive Affect in Early Adolescents: An Experimental Study in Indonesian Middle School Students
Presenter: Karinta Elmira Amalia, Padjadjaran University
ORAL Presentation 05
Reducing Stress and Improving Subjective Well-Being in Postpartum Mothers: Yoga Intervention Design and Acceptability Study
Presenter: Pujiastuti Sindhu, University of Padjadjaran
ORAL Presentation 06
Beyond Service and Sacrifice: A PRISMA-Based Systematic Review on the Well-being of Non-Governmental Organization Workers in the Pursuit of Sustainable Development Goals
Presenter: Qurnia Fitriyatinur, University of Padjadjaran
ORAL Presentation 07
The Role of Parental Approval in Young Adults’ Romantic Relationships: A Cross-Cultural Study
Presenter: Asteria Devy Kumalasari, University of Padjadjaran
ORAL Presentation 08
Measuring Social Power through Nonverbbal Cues: A Photo-Based Tool for Sundanese Society
Presenter: Afra Hafny Noer, University of Padjadjaran
2:35 PM—2:50 PM
Afternoon Break & Refreshments
2:50 PM—3:50 PM
Hallway
Poster Presentation
POSTER Presentation 01
Predicting COVID-19 Preventive Behaviors in University Students: A Two-Wave Study Using an Expanded TPB Framework
Presenter: Yuki Kaneko, Tohoku University
POSTER Presentation 02
What the Nose Knows: How Odor Shapes Object Selection and Artistic Expression
Presenter: Zahra Davoudi, Tohoku University
POSTER Presentation 03
Development and Validation of the Japanese Version of the Rating of Fatigue Scale
Presenter: Kaho Suzuki, Tohoku University
POSTER Presentation 04
Facial Viewpoint Modulates Emotional Influence on Risk-Taking in a Balloon Analog Risk Task
Presenter: ShuHeng Qiao, Tohoku University
POSTER Presentation 05
The Effects of Low Self-Control and Love Addiction Tendency on the Perpetration of Dating Violence
Presenter: Yu Hachiya, Tohoku University
POSTER Presentation 06
Salt-Related Knowledge and Perceptions of Food Healthiness and Tastiness: A Cross-Cultural Study of Taiwan and Japan
Presenter: Yu-Yoh Chen, Tohoku University
POSTER Presentation 07
Effects of Superstitious Beliefs on Littering
Presenters: Duanchai Israsena Na Ayudhya and Pakdipum Wongkhae, Chulalongkorn University
POSTER Presentation 08
Two-Person Cognitive and Aesthetic Decision-Making about Natural Scene Images
Presenter: Kawachi Tatsuru, Tohoku University
POSTER Presentation 09
Learning Story Schema: Effects on Neural Dynamics and Health-Related Behavior
Presenter: Claire H. C. Chang, Taipei Medical University
POSTER Presentation 10
Human Gaze During Hand-Writing
Presenter: Neil Mennie, Chulalongkorn University
POSTER Presentation 11
The Role of Auditory Cues in Visual Size Perception: A Comparison Between 2D and 3D Visual Environments
Presenter: Yang Yilin, Tohoku University
POSTER Presentation 12
The Effects of Background Chroma on Perceived Basic Tastes and Gaze Behavior in Food Packaging
Presenter: Mayu Honda, Tohoku University
POSTER Presentation 13
A Study on the Causes of Celebrity Worship
Presenter: Kudo Kenshin, Tohoku University
3:50 PM—4:50 PM
Main Room
Oral Presentation Session C
ORAL Presentation 09
A Working Model of the Pathophysiology of Bipolar Disorder
Presenter: Matteo Martino, Taipei Medical University
ORAL Presentation 10
Does the Average Face of a Group Affect the Cheerleader Effect?
Presenter: Kazusa Yoda, Tohoku University
ORAL Presentation 11
Cognitive Errors with Catastrophic Consequences: Why Do Parents Accidently Leave Children in Hot Cars?
Presenter: Graham Pluck, Chulalongkorn University
4:50 PM—5:00 PM
Main Room
Closing

 

 

 


 

 

ภาพบรรยากาศ

 

 

คณะจิตวิทยาจัดการประชุมวิชาการทางจิตวิทยาระดับนานาชาติ TICP 2025

 

คณะจิตวิทยา จัดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติ The 3rd Thailand International Conference on Psychology (TICP 2025) หัวข้อ “Human Development for a Sustainable World” ระหว่างวันที่ 15-16 ก.ค. 2568 ณ โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ โดยการประชุมดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ Department of Psychology, Graduate School of Arts and Letters, Tohoku University ประเทศญี่ปุ่น

 

 

การประชุมครั้งนี้ประกอบด้วยการปาฐกถาสำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่

 

  • Psychology for Sustainability: The Human Connection to the Natural World
    โดย Prof. Susan Clayton จาก Department of Psychology, The College of Wooster
  • How to Make Our Old Age Meaningful?
    โดย Prof. Helene H. Fung จาก Department of Psychology, The Chinese University of Hong Kong

 

นอกจากนี้ยังมีการอภิปราย (Panel Discussion) ในหัวข้อที่น่าสนใจกว่า 6 หัวข้อ และการนำเสนองานวิจัย ทั้งในรูปแบบ Oral presentations และ Poster presentation จากนักวิจัยทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมาก

 

กำหนดการ https://ticp.psy.chula.ac.th/schedule/

Proceeding TICP 2025 proceeding

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ ก่อนงานประชุม ยังมีการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Pre-Conference Workshops) 4 เรื่อง ในวันที่ 13-14 กรกฎาคม 2568 ณ ชั้น 4 อาคารบรมราชชนนีศรีศตพรรษ คณะจิตวิทยา จุฬาฯ ดังนี้

 

 

 


 

 

ภาพบรรยากาศงาน Conference

 

วันแรก วันที่สอง

 

 

ภาพบรรยากาศงาน Pre-Conference Workshops

 

Workshop 1 Worshop 2
Workshop 3 Workshop 4

 

 

 

พิธียกย่องเชิดชูเกียรติบุคลากรแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำปี พ.ศ. 2568

 

คณะจิตวิทยา ขอแสดงความยินดีกับบุคลากรคณะจิตวิทยา ที่ได้รับรางวัลในงานพิธียกย่องเชิดชูเกียรติบุคลากรแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำปี พ.ศ. 2568 ในวันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2568 ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดังนี้

 

  • ดร.พิมพ์จุฑา นิมมาภิรัตน์  (อาจารย์ประจำแขนงวิชาจิตวิทยาพัฒนาการ)

ได้รับรางวัลกิตติบัตร “ผลงานวิจัยดีเด่นของนิสิตระดับปริญญาเอก สาขาสังคมศาสตร์” จากงานวิทยานิพนธ์ เรื่อง การติดตามความสัมพันธ์ระยะยาว ระหว่างการกำกับตนเองของเด็กแรกเกิดและการกำกับตนเองเมื่อเด็กอายุ 2 ปี โดยมีพื้นฐานอารมณ์โกรธของเด็ก และคุณภาพความสัมพันธ์ระหว่างแม่และเด็กเป็นตัวแปรส่งผ่าน โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.พรรณระพี สุทธิวรรณ แขนงวิชาจิตวิทยาพัฒนาการ คณะจิตวิทยา เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา

 

  • นางสาวจิรีรัตน์ สิทธิวงศ์  (นักจิตวิทยา ศูนย์สุขภาวะทางจิต คณะจิตวิทยา)

ได้รับรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติบุคลากรสายปฏิบัติการ “คนดี ศรีจุฬาฯ” กลุ่มปฏิบัติการและวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งต่าง ๆ ระดับปริญญาตรีขึ้นไป บุคลากรสายปฏิบัติการตำแหน่งอื่น ๆ ที่มีอายุการปฏิบัติงาน 3 ปีขึ้นไป

 

  • ตัวแทนคณะจิตวิทยา ศาสตราจารย์ ดร.อรัญญา ตุ้ยคำภีร์ (ผู้อำนวยการหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาจิตวิทยา)

ได้รับรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติบุคลากรสายปฏิบัติการ “คนดี ศรีจุฬาฯ” ประเภทกลุ่มบุคลากรยอดเยี่ยมขนาดใหญ่ กลุ่มคณะทำงาน โครงการ “จุฬาอารี” ซึ่งประกอบไปด้วยหลาย ๆ หน่วยงานของจุฬาฯ ทั้งสิ้น 13 หน่วยงาน รวมถึงคณะจิตวิทยาด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

งานปฐมนิเทศนิสิตใหม่ วันที่ 8-9 กรกฎาคม 2568

คณะจิตวิทยาจัดกิจกรรมปฐมนิเทศให้กับนิสิตใหม่คณะจิตวิทยา ระดับปริญญาตรีทั้งหลักสูตร JIPP หลักสูตรไทย และนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา (ภาคนอกเวลาราชการ) ระหว่างวันที่ 8-9 กรกฎาคม 2568

 

  • วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 เวลา 9.00-16.00 น. ห้อง 401 และ 407 : นิสิตหลักสูตร JIPP และผู้ปกครอง 

 

 

 

  • วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.00-21.00 น. ห้อง 614 : นิสิตบัณฑิตศึกษา ภาคนอกเวลา

 

 

 

  • วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 9.00-13.00 น. ห้อง 401 : นิสิตปริญญาตรี ภาคไทย