News & Events

“จิตวิทยา จุฬาฯ” ร่วมมือ “สสส.” เปิดรับสมัคร “Thai Mind Awards” รุ่นที่ 2 เพื่อค้นหาองค์กรต้นแบบสร้างเสริมสุขภาวะทางจิตแก่บุคลากร

 

วันที่ 10 ตุลาคม 2568
สถานที่ อาคารบรมราชชนนีศรีศตพรรษ คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

 

 

 

คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต (TIMS) โดยความสนับสนุนของ สสส. เปิดรับสมัครองค์กร เพื่อร่วมคัดเลือกให้เป็น “สุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต” เพื่อเป็นต้นแบบองค์กรดีเด่นด้านการส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของพนักงานให้แก่องค์กรอื่น ๆ ภายใต้โครงการ Thai Mind Awards ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในปีที่ผ่านมา โดยมีองค์กรเข้าร่วมสมัครกว่า 50 องค์กร และมีบุคลากรกว่า 2,000 คนร่วมสะท้อนความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายสุขภาวะทางจิตในองค์กร

 

ในโอกาสนี้ ผศ. ดร.ณัฐสุดา เต้พันธ์ คณบดีคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวต้อนรับสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติ โดยระบุว่า คณะจิตวิทยา จุฬาฯ และสถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต (TIMS) ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนโครงการ Thai Mind Awards อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ระหว่างองค์กร และผลักดันวัฒนธรรมการส่งเสริมสุขภาวะทางจิตในที่ทำงานให้เติบโตอย่างยั่งยืน

 

ศ. ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานในพิธีเปิด ได้กล่าวถึงความสำคัญของสุขภาวะในที่ทำงาน โดยย้ำว่า “สุขภาวะที่ดีเป็นรากฐานของการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืน โครงการ Thai Mind Awards สะท้อนบทบาทของจุฬาฯ ในการเป็นมหาวิทยาลัยไทยคุณภาพระดับโลก ที่สร้างคุณค่าของการเปลี่ยนชีวิตผ่านภูมิปัญญาแห่งนวัตกรรม ความเชี่ยวชาญ และจิตวิญญาณเพื่อสังคม”
ทั้งนี้ อธิการบดีได้กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของจุฬาฯ ที่มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม และเป็นต้นแบบขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับความสุขและคุณภาพชีวิตของบุคลากร เพื่อจุดประกายให้องค์กรไทยร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมแห่งการทำงานที่ดีอย่างยั่งยืน

 

ดร. นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต และผู้ร่วมก่อตั้งสถาบัน TIMS กล่าวถึงความสำคัญของปัญหาสุขภาพจิตในกลุ่มคนทำงานว่าจากข้อมูลของกรมสุขภาพจิต พบว่าคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงาน มีภาวะเครียดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับอดีต ถือเป็น “ภัยเงียบในองค์กร” ที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ทั้งจากผู้บริหารและภาคส่วนต่าง ๆ

 

“ปัญหาสุขภาพจิตไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่ทั้งบุคคล องค์กร และประเทศต้องร่วมมือกัน โครงการ Thai Mind Awards จึงเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้องค์กรมองเห็นต้นตอของปัญหา และสามารถพัฒนาแนวทางป้องกันในระดับนโยบายได้อย่างเป็นระบบ”

 

 

 

 

 

ภายหลังการเปิดงาน มีการเสวนาในหัวข้อ “การเข้าร่วมการคัดเลือกสุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต Thai Mind Awards” ดำเนินรายการโดย ผศ. ดร.หยกฟ้า อิศรานนท์

 

ดร. นพ.วรตม์ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันคนไทยมีความตระหนักและเปิดใจพูดถึงปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้น และมีการตีตราทางสังคมลดลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม สถิติยังชี้ว่าประชาชนไทยกว่า 24% เคยประสบปัญหาสุขภาพจิตอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต และกว่า 4.3 ล้านคนมีปัญหาสุขภาพจิตในรอบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและ Gen Z ที่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นการทำงาน (First Jobber) ซึ่งเผชิญแรงกดดันจากการแข่งขันและสื่อสังคมออนไลน์

 

“องค์กรจึงมีบทบาทสำคัญในการเป็นพื้นที่ปลอดภัย ที่ช่วยให้คนทำงานได้เรียนรู้ เข้าใจ และจัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสม เพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและยั่งยืน”

 

ผศ. ดร.ประพิมพา จรัลรัตนกุล รองคณบดีคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้รับผิดชอบโครงการ Thai Mind Awards กล่าวว่า “สุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต หมายถึง องค์กรที่สามารถสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่เพียงทำให้พนักงานมีความสุขและพึงพอใจกับงานเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้บุคลากรรู้สึกมีคุณค่า เชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง และมีพลังในการบรรลุเป้าหมายทั้งของตนและขององค์กรได้อย่างเต็มศักยภาพ”

 

จากผลการสำรวจในปีที่ผ่านมา พบว่าองค์กรที่ได้รับรางวัล “สุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต” ล้วนมีจุดร่วมสำคัญ คือการดูแลพนักงานในทุกมิติ จนกลายเป็น “วัฒนธรรมองค์กรที่ใส่ใจและเข้าใจคน” อย่างแท้จริง ครอบคลุม 5 มิติหลักของ GRACE Model ได้แก่

    • Growth & Development – ส่งเสริมการเรียนรู้และการเติบโตของบุคลากร
    • Recognition – ยกย่องชื่นชมและให้คุณค่ากับผลงานของพนักงาน
    • All for Inclusion – สร้างวัฒนธรรมแห่งการมีส่วนร่วมและการเป็นเจ้าของร่วมกัน
    • Care for Health & Safety – ดูแลสุขภาวะและความปลอดภัยทั้งกายและใจ
    • Work-Life Enrichment – ผสานคุณค่าในงานและชีวิตส่วนตัวให้สมดุลและมีความหมาย

 

หากองค์กรสามารถดูแลครบทั้ง 5 ด้านนี้ได้อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง จะช่วยเสริมสร้าง “ความมั่นใจ ความผูกพัน และแรงบันดาลใจ” ให้แก่บุคลากร ซึ่งจะสะท้อนกลับมาในรูปของประสิทธิภาพการทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมที่เกิดจาก “พลังใจที่ดี” ของคนในองค์กร นอกจากนี้ ผศ. ดร.ประพิมพา ยังได้เชิญชวนองค์กรทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรสาธารณะ เข้าร่วมสมัครคัดเลือกเป็น “สุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต” ภายใต้โครงการ Thai Mind Awards รุ่นที่ 2 ทั้งยังแนะนำรายละเอียด ขั้นตอนการสมัคร และกำหนดการสำคัญของการสมัครอีกด้วย โดยการประเมินจะพิจารณาจากทั้ง มิติของ GRACE Model และกระบวนการดำเนินงานตาม FEEL Model ซึ่งสะท้อนความเป็นระบบและความยั่งยืนในการส่งเสริมสุขภาวะทางจิตขององค์กร ประกอบด้วย

    • Formulate – การวางแผนและออกแบบแนวทางการส่งเสริมสุขภาวะทางจิตในองค์กร
    • Enact – การนำแนวทางดังกล่าวไปปฏิบัติจริงและบูรณาการในนโยบายองค์กร
    • Evaluate – การประเมินผลและปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    • Leverage – การต่อยอดผลลัพธ์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อบุคลากรและองค์กรในวงกว้าง

 

“การเข้าร่วมโครงการ Thai Mind Awards ไม่ได้เป็นเพียงเวทีประกวดเพื่อรับรางวัลเท่านั้น แต่คือโอกาสในการสะท้อนแนวปฏิบัติที่ดี เรียนรู้จากประสบการณ์ขององค์กรอื่น และร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคมไทย องค์กรที่ใส่ใจสุขภาวะทางจิตของพนักงาน ไม่เพียงสร้างคนที่มีความสุข แต่ยังสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับองค์กรและประเทศชาติ”

 

 

 

 

 

คุณณรงค์ศักดิ์ โคสี ตัวแทนจากบริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) สาขาปราจีนบุรี หนึ่งในองค์กรที่ได้รับรางวัล Thai Mind Awards รุ่นแรก กล่าวว่า “การเข้าร่วมโครงการ Thai Mind Awards ทำให้องค์กรของเรามองเห็นแนวคิดเรื่องการดูแลสุขภาวะของบุคลากรอย่างเป็นระบบและชัดเจนยิ่งขึ้น จากสิ่งที่เราทำอยู่แล้วในองค์กร เราสามารถนำมาตีกรอบและพัฒนาให้เป็นแนวปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ผ่านมุมมองของ GRACE Model ที่ช่วยให้เราเข้าใจว่า สุขภาวะทางจิตของพนักงานคือรากฐานของความสำเร็จขององค์กร” ในฐานะฝ่ายบริหาร องค์กรให้ความสำคัญกับ “นโยบายที่มาจากความใส่ใจ” เพื่อสะท้อนให้พนักงานทุกคนเห็นว่าพวกเขามีคุณค่าและมีความหมายต่อองค์กรจริง ๆ

 

“เรามีหลากหลายโปรแกรมที่มุ่งสร้างความสุขให้พนักงาน โดยเฉพาะกิจกรรม Management Walk About ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้บริหารและพนักงานได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เกิดความเข้าใจและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน หัวหน้างานในทุกระดับจึงเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงนโยบายการดูแลพนักงานกับการปฏิบัติจริงในแต่ละวัน”

 

“รางวัล Thai Mind Awards เป็นความภาคภูมิใจของทุกคนในบริษัท เพราะสะท้อนให้เห็นว่าพนักงานของเรา ‘มีความสุขในการทำงานจริง’ และนั่นคือพลังที่ขับเคลื่อน Western Digital ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง”

 

คุณณรงค์ศักดิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันองค์กรได้นำแนวคิดจากโครงการนี้ไปต่อยอดสู่การจัดทำ หลักสูตรการพัฒนาความสุขของพนักงาน เพื่อเสนอต่อกรมพัฒนาแรงงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และแนวทางการดูแลสุขภาวะของบุคลากรให้กับองค์กรอื่น ๆ ในวงกว้าง “เราหวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการขยายแรงบันดาลใจนี้ต่อไป เพื่อให้องค์กรไทยทุกแห่งเห็นว่า ความสุขของคนทำงาน คือพลังสำคัญที่ทำให้องค์กรแข็งแรงและสังคมเติบโตอย่างยั่งยืน”

 

 

 

 

 

องค์กรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ “สุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต (Thai Mind Awards)” สามารถสมัครและส่งผลงานได้ที่ แบบฟอร์มการรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม – 15 พฤศจิกายน 2568

ทุกองค์กรที่เข้าร่วมจะได้รับ

    • ประกาศนียบัตรการเข้าร่วม
    • รายงานผลการประเมินสุขภาวะทางจิตของบุคลากร ที่วิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและทรัพยากรมนุษย์

 

ส่วนองค์กรที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ชนะจะได้รับ โล่รางวัลและประกาศนียบัตร Thai Mind Awards พร้อมโอกาสในการร่วม แลกเปลี่ยนความรู้กับองค์กรต้นแบบ และได้รับการเผยแพร่เรื่องราวผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ของคณะจิตวิทยา จุฬาฯ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้แก่องค์กรอื่น ๆ ทั่วประเทศ

 

 


 

 

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชนติดต่อ:

Faculty of Psychology, Chulalongkorn University
– คุณบุณยาพร อนะมาน 081-659-8780

 

 

เปิดรับสมัครองค์กรในประเทศไทย เพื่อเฟ้นหา 5 “สุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต” รุ่นที่ 2 Thai Mind Awards 2026

 

เปิดรับสมัครองค์กรในประเทศไทย เพื่อเฟ้นหา 5 “สุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต” รุ่นที่ 2

Thai Mind Awards 2026

เพื่อเป็นแบบอย่างและแนวทางให้แก่องค์กรอื่นๆ ในด้านการส่งเสริมสุขภาวะทางจิตที่ดีให้แก่พนักงาน

 

 

 

 

คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอเชิญชวนองค์กรในประเทศไทยทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เข้าร่วมสมัครเพื่อรับการคัดเลือกเป็น “สุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต” รุ่นที่ 2 Thai Mind Awards 2026 ชิงถ้วยรางวัลและประกาศนียบัตรในมิติที่โดดเด่น จำนวน 5 รางวัล พร้อมได้รับการถ่ายทอดเรื่องราวดี ๆ ขององค์กร ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ของคณะจิตวิทยา จุฬาฯ เพื่อเป็นแบบอย่างและแนวทางให้องค์กรอื่น ๆ สามารถนำไปปรับใช้เพื่อสร้างสุขภาวะทางจิตที่ดีให้แก่พนักงานต่อไป

 

 

หากองค์กรของคุณ มีโปรแกรมที่ส่งเสริมพนักงานในทุกมิติ หรือมิติใดมิติหนึ่งของ GRACE ได้แก่

 

  • G = Growth & Development – สนับสนุนด้านการเติบโตและพัฒนาการของพนักงาน
  • R = Recognition – สนับสนุนด้านการแสดงออกและการรับรู้ถึงความสามารถและความสำเร็จของพนักงาน
  • A = All for inclusion – สนับสนุนด้านการให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของพนักงาน
  • C = Care for health & safety – สนับสนุนด้านการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน
  • E = work-life Enrichment – สนับสนุนความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน

 

 


 

รายละเอียดเพิ่มเติม TMA 2026 applications

 


 

 

องค์กรที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการและส่งผลงานได้ที่

 

 

 

ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม ถึง 15 พฤศจิกายน 2568

 

 

 

 

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม E-mail : thaimindawards@chula.ac.th

 

 

 

 

ความรุนแรง – Violence

 

ความรุนแรง หมายถึง การกระทำที่เป็นความจงใจใช้กำลังหรืออำนาจทางกายข่มขู่ คุกคาม ทำร้ายตนเอง ผู้อื่น กลุ่มคนหรือสังคม ทำให้เกิดการบาดเจ็บ เสียชีวิต การทำร้ายจิตใจ ยับยั้ง และปิดกั้นการเจริญงอกงาม สูญเสีย หรือจำกัดสิทธิบางประการ

 

 

องค์การอนามัยโลกได้แบ่งความรุนแรงออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

 

  1. ความรุนแรงต่อตนเอง หมายถึง ลักษณะความรุนแรงที่เกิดจากการที่บุคคลกระทำต่อตนเอง แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทย่อย ได้แก่ พฤติกรรมฆ่าตัวตาย และพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง
  2. ความรุนแรงระหว่างบุคคล หมายถึง ความรุนแรงที่กระทำโดยบุคคลอื่น หรือกลุ่มบุคคลอื่น แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทย่อย ได้แก่ ได้แก่ ความรุนแรงในครอบครัวและคู่ครอง และความรุนแรงในชุมชน
  3. ความรุนแรงระดับกลุ่ม หมายถึง ความรุนแรงที่กระทำโดยกลุ่มบุคคล แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทย่อย ได้แก่ ความรุนแรงทางสังคม ความรุนแรงทางการเมือง และความรุนแรงทางเศรษฐกิจ

 

 

ส่วนลักษณะของการกระทำความรุนแรงหรือวิธีการที่ใช้ในการแสดงออกถึงความรุนแรง มีดังนี้

 

  1. ความรุนแรงทางร่างกาย หมายถึง การได้รับบาดเจ็บโดยผู้กระทำความรุนแรงต่อผู้ถูกกระทำ เช่น การทะเลาะวิวาท เตะ ต่อย และเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ใช่อุบัติเหตุ
  2. ความรุนแรงทางเพศ หมายถึง การกระทำต่าง ๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ผู้ถูกกระทำเป็นเครื่องตอบสนองความต้องการทางเพศของผู้กระทำ โดยอาจใช้กำลังบังคับ หลอกลวง ข่มขู่ หรือชักชวนให้สิ่งตอบแทน
  3. ความรุนแรงทางจิตใจ หมายถึง การถูกทำร้ายจิตใจและควบคุมบังคับจิตใจ ทำให้รู้สึกอับอาย รู้สึกด้อยค่า หรือลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ลง
  4. ความรุนแรงจากความสูญเสียหรือการถูกละเลยทอดทิ้ง หมายถึง การไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่และคุ้มครองอย่างเหมาะสม การถูกละเลยในเรื่องปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิต หรือสุขภาพอนามัย จนเกิดอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ

 

 

 

 

สมาคมจิตวิทยาแห่งอเมริการายงานว่าความรุนแรงเกิดจากสาเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้

 

  1. การแสดงออก – บุคคลใช้ความรุนแรงเพื่อเป็นการปลดปล่อยความรู้สึกโกรธหรือหงุดหงิด การที่บุคคลคิดว่าตัวเขาไม่มีคำตอบสำหรับปัญหาจึงกลายเป็นความรุนแรงในการแสดงอารมณ์ที่ปราศจากการควบคุม
  2. ความต้องการควบคุมจัดการ – การเลือกใช้วิธีการควบคุมให้ผู้อื่นทำตามสิ่งที่ตนต้องการ รวมทั้งการแก้แค้นผู้อื่นหรือบุคคลที่เขารักที่ทำให้เขาเจ็บปวด
  3. การเรียนรู้จากตัวแบบ – เมื่อบุคคลเห็นว่าตัวแบบใช้การรุนแรงในการแก้ปัญหา และได้รับในสิ่งที่ต้องการหรือไม่ได้รับโทษจากความรุนแรงนั้น บุคคลก็จะรับรู้และซึมซับความรุนแรงเป็นแนวทางหนึ่งในการตอบสนอของตน

 

เช่นเดียวกับพฤติกรรมอื่น ๆ ความรุนแรงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากความรุนแรงไม่ได้เกิดจากสาเหตุเพียงสาเหตุเดียว การใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งในการแก้ปัญหาจึงทำได้ยาก สิ่งที่ดีที่สุดคือการสังเกตสิ่งที่เป็นสัญญาณเตือนถึงความรุนแรงแล้วรีบดำเนินการช่วยเหลือ

 

 

 


 

 

ข้อมูลจาก

 

จิระสุข สุขสวัสดิ์. (2554). ความรุนแรงระดับกลุ่มอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบ การเผชิญปัญหา และความสุขของนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีภูมิลำเนาในเขตพื้นที่ห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย: การวิจัยแบบผสานวิธี [วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]. คลังปัญญาจุฬาฯ. https://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2011.267

 

กิตติพรรณ ศิริทรัพย์. (2553). ประสบการณ์ทางจิตใจของผู้สูงอายุที่ถูกกระทำรุนแรง [วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]. คลังปัญญาจุฬาฯ. https://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2010.306

 

Cr. ภาพ

แสดงความยินดีกับ คุณพิริยะ พิริปุญโญ ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดชิงรางวัลในเงินทุนภูมิพล ปีการศึกษา 2567

 

คณะจิตวิทยา ขอแสดงความยินดีกับ คุณพิริยะ พิริปุญโญ นิสิตปริญญาโท สาขาวิชาจิตวิทยาการปรึกษา คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดชิงรางวัลในเงินทุนภูมิพล ปีการศึกษา 2567 ประเภทรางวัลบทความวิชาการ (ผลงานกลุ่ม) รางวัลที่ 2 หัวข้อ “สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า : พระราชคุณูปการที่มีต่อสังคมไทยสมัยใหม่”

 

 

 

แสดงความยินดีกับ คุณณฐภัทร โกแมน ที่ได้รับรางวัลในการแข่งขัน China-ASEAN International SUP Open 2025

 

คณะจิตวิทยา ขอแสดงความยินดีกับ คุณณฐภัทร โกแมน นิสิตปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาพายยืน (Stand Up Paddling) ในรายการ China-ASEAN International Canoe & SUP Open 2025 ที่จัดแข่งขันระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 4 ตุลาคม 2025 ณ หนานหนิง มณฑลกวางสี ประเทศจีน โดยได้รับรางวัล

 

  • ชนะเลิศ ประเภท Technical Race
  • อันดับสอง ประเภท Sprint Race

 

 

ขอแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 51 ปี แห่งการสถาปนาสถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน

 

วันที่ 3 ตุลาคม 2568 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐสุดา เต้พันธ์ คณบดีคณะจิตวิทยา พร้อมด้วยคุณวีระยุทธ กุลสุวิพลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารคณะจิตวิทยา ร่วมแสดงความยินดีและมอบของที่ระลึก เนื่องในโอกาสครบรอบ 51 ปี แห่งการสถาปนาสถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.พันธวัศ สัมพันธ์พานิช ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน เป็นผู้รับมอบ ณ โถงด้านหน้าสำนักงานฝ่ายบริหารและห้องประชุมเศรฐมานิต-วารี ชั้น 15 อาคารสรรพศาสตร์วิจัย

 

 

 

 

ขอแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 18 ปี แห่งการสถาปนาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข

 

วันที่ 3 ตุลาคม 2568 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐสุดา เต้พันธ์ คณบดีคณะจิตวิทยา พร้อมด้วยคุณวีระยุทธ กุลสุวิพลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารคณะจิตวิทยา ร่วมแสดงความยินดีและมอบของที่ระลึก เนื่องในโอกาสครบรอบ 18 ปี แห่งการสถาปนาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีศาสตราจารย์ ดร.จิตรลดา อารีย์สันติชัย คณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข เป็นผู้รับมอบ ณ ห้อง 1107 ชั้น 11 อาคารสรรพศาสตร์วิจัย จุฬาฯ

 

 

 

 

 

 

 

โครงการอบรมความรู้สถิติเบื้องต้นสำหรับการวิจัยทางจิตวิทยา ประจำปี 2567

 

โครงการอบรมความรู้สถิติเบื้องต้นสำหรับการวิจัยทางจิตวิทยา ประจำปี 2567

 

 

 

คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วม โครงการอบรมความรู้สถิติเบื้องต้นสำหรับการวิจัยทางจิตวิทยา ประจำปี 2567 โดย อบรมผ่านโปรแกรม ZOOM ระหว่างวันที่ 1–15 กรกฎาคม 2567 เวลา 18.00 – 21.00 น. รวมใช้ระยะเวลาในการฝึกอบรมทั้งสิ้น 18 ชั่วโมง

 

อบรมและบรรยายโดย รองศาสตราจารย์ สักกพัฒน์ งามเอก Faculty of Psychology, Chulalongkorn University

 

โครงการอบรมมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ทางด้านสถิติเบื้องต้นสำหรับการวิจัยทางจิตวิทยาให้แก่ผู้สนใจทั่วไป และเป็นการปรับพื้นฐานความรู้ความเข้าใจในทฤษฏีทางสถิติที่ใช้ในการศึกษาวิจัยทางจิตวิทยา ให้แก่ผู้ที่กำลังจะเข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษา รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการต่อยอดองค์ความรู้ทางด้านสถิติเบื้องต้นสำหรับการวิจัยทางจิตวิทยาให้แก่ผู้สนใจทั่วไป

 

เนื้อหาการอบรมจะมุ่งเน้นไปที่ พื้นฐานความรู้ด้านสถิติเบื้องต้นสำหรับการวิจัย และการนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ โดยคาดหวังว่าผู้ที่เข้ารับการอบรมจะมีความรู้ และความเข้าใจทฤษฎีทางสถิติศาสตร์เบื้องต้น โดยเฉพาะเนื้อหาในด้านสถิติเบื้องต้นสำหรับงานวิจัย ครอบคลุมถึงการวิเคราะห์อิทธิพลส่งผ่านและอิทธิพลกำกับ เพื่อนำความรู้นี้ไปประยุกต์ใช้ต่อยอดในการทำความเข้าใจ และสร้างผลงานวิจัยทางด้านจิตวิทยาในเชิงลึกต่อไปได้

 

 

หลังเสร็จสิ้นการอบรมผู้เข้าร่วมจะได้รับ เกียรติบัตรรับรองการเข้าร่วมอบรม (E-certificate) โดยจะต้องเข้ารับการฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 5 ครั้ง (15 ชั่วโมง)

 

 

หัวข้อการฝึกอบรม

 

 

 

หลังจากเสร็จสิ้นการอบรมแต่ละครั้ง ทางผู้จัดโครงการจะอัพโหลดไฟล์วิดีโอการอบรมให้ผู้เข้าร่วมโครงการ สามารถเข้ามาดูย้อนหลังได้จนถึงวันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2567 เวลา 23.59 น

 

 

อัตราค่าลงทะเบียน

 

 

*บุคลากรของรัฐและหน่วยงานราชการที่ได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาแล้ว

มีสิทธิเบิกค่าลงทะเบียนได้ตามระเบียบของทางราชการ*

 

 

 

เงื่อนไขการลงทะเบียน

  1. กรุณาชำระค่าลงทะเบียนเข้าร่วมงานก่อนกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียน
  2. การส่งแบบฟอร์มลงทะเบียน จะต้องแนบหลักฐานการชำระเงินค่าลงทะเบียนมาด้วย จึงจะถือว่าการลงทะเบียนสมบูรณ์
  3. เมื่อผู้จัดงานได้ตรวจสอบการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะแจ้งยืนยันการลงทะเบียนให้ทราบภายใน 3 วัน
  4. บุคลากรของรัฐและหน่วยงานราชการที่ได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาแล้ว สามารถเข้าร่วมการอบรมได้โดยไม่ถือเป็นวันลา และมีสิทธิเบิกค่าลงทะเบียนได้ตามระเบียบของทางราชการ
  5. ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์จะจัดส่งให้ทางอีเมล กรุณาตรวจสอบข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ และอีเมล
  6. เมื่อชำระเงินค่าลงทะเบียนแล้ว จะไม่สามารถขอรับเงินคืนได้ทุกกรณี

     

    —————————————– ปิดรับสมัครแล้ว ———————————————-

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณวาทินี สนลอย โทร. 02-218-1307 หรือ email: Wathinee.s@chula.ac.th

 

โครงการอบรมความรู้ทางจิตวิทยาสำหรับประชาชนทั่วไป ประจำปี 2567

 

คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมโครงการอบรมความรู้ทางจิตวิทยาสำหรับประชาชนทั่วไป ประจำปี 2567 ซึ่งจะจัดอบรมแบบออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่น ZOOM ระหว่างวันที่ 25 พ.ย. – 23 ธ.ค. 2567 (เฉพาะวันจันทร์ อังคาร พุธ) เวลา 18.00 – 21.00 น. รวมใช้ระยะเวลาในการฝึกอบรมและสอบวัดผลทั้งสิ้น 30 ชั่วโมง โดย คณาจารย์ประจำแขนงวิชาต่าง ๆ ของ คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นวิทยากร

 

 

 

โครงการอบรมมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ทางด้านจิตวิทยาให้แก่ประชาชนทั่วไปที่สนใจศาสตร์ด้านจิตวิทยา เนื้อหาการอบรมจะเป็นการปูพื้นฐานให้ผู้ที่ไม่เคยศึกษาศาสตร์ทางด้านจิตวิทยามาก่อนได้เรียนรู้และเข้าใจกับคำว่า “จิตวิทยา” โดยมุ่งเน้นไปที่พื้นฐานในการศึกษากระบวนการแห่งการรู้สึก การรับรู้ การเรียนรู้ การจำ การคิด การจูงใจ บุคลิกภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล โดยคาดหวังว่าผู้ที่ผ่านการอบรมไปนั้น จะสามารถนำศาสตร์ทางจิตวิทยาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ ยังเป็นการเตรียมความพร้อมและเพิ่มองค์ความรู้พื้นฐานทางด้านจิตวิทยาให้แก่ผู้สนใจเข้าศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีพื้นฐานทางจิตวิทยาที่จำเป็น และสามารถนำไปต่อยอดในการศึกษารายวิชาที่กำหนดในหลักสูตรในระดับที่สูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ทั้งนี้ ผู้ที่สอบผ่านเกณฑ์การวัดผลของโครงการจะได้รับวุฒิบัตรเพื่อใช้ประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษาของคณะจิตวิทยาได้

 

 

 

เกณฑ์การวัดผล

 

  1. ต้องเข้ารับการฝึกอบรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาการอบรม (21 ชั่วโมง)
  2. สอบวัดผลข้อเขียน โดยผ่านเกณฑ์การประเมิน 70% ขึ้นไป
  3. วันสอบเป็นวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 – 21.00 น. เท่านั้น (สอบออนไลน์) ไม่มีวันเวลาอื่น สามารถเข้าสอบสายได้ แต่จะเสร็จสิ้นการสอบที่เวลา 21.00 น.

 

 

หัวข้อการฝึกอบรม

 

 

 

 

หลังจากเสร็จสิ้นการอบรมแต่ละครั้ง ทางผู้จัดโครงการจะอัพโหลดไฟล์วิดีโอการอบรมให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเข้ามาดูย้อนหลังได้จนถึง
วันที่ 31 มกราคม 2568 (หากชมคลิปวิดีโอภายหลังช่วงเวลาสอบจะไม่นับเป็นเวลาเรียน)

 

 

 

อัตราค่าลงทะเบียน

 

 

 

บุคลากรของรัฐและหน่วยงานราชการที่ได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาแล้วมีสิทธิเปิกค่าลงทะเบียนได้ตามระเบียบของทางราชการ

 

 

 

 

 

เงื่อนไขการลงทะเบียน

 

  1. กรุณาชำระค่าลงทะเบียนเข้าร่วมงานก่อนกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียน
  2. การส่งแบบฟอร์มลงทะเบียน จะต้องแนบหลักฐานการชำระเงินค่าลงทะเบียนมาด้วย จึงจะถือว่าการลงทะเบียนสมบูรณ์
  3. เมื่อผู้จัดงานได้ตรวจสอบการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะแจ้งยืนยันการลงทะเบียนให้ทราบภายใน 3 วัน
  4. บุคลากรของรัฐและหน่วยงานราชการที่ได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาแล้ว สามารถเข้าร่วมการอบรมได้โดยไม่ถือเป็นวันลา และมีสิทธิเบิกค่าลงทะเบียนได้ตามระเบียบของทางราชการ
  5. ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์จะจัดส่งให้ทางอีเมลที่ท่านกรอกในแบบฟอร์มการลงทะเบียน
  6. เมื่อชำระเงินค่าลงทะเบียนแล้ว จะไม่สามารถขอรับเงินคืนได้ทุกกรณี

 

 

 

 

 


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณวาทินี
อีเมล Wathinee.S@chula.ac.th
โทร 02-218-1307

 

โครงการอบรมเชิงปฏิบัติ “Understanding Us: An Emotionally Focused Workshop for Couples”

 

โครงการอบรมเชิงปฏิบัติ เข้าใจ “ฉัน” เข้าใจ “เธอ” เข้าใจ “เรา”
“Understanding Us: An Emotionally Focused Workshop for Couples”

 

สำหรับบุคคลทั่วไป

 

วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เวลา 9.30 – 16.30 น.
ณ ห้องประชุมชั้น 4 อาคารบรมราชชนนีศรีศตพรรษ คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

 

วิทยากร

 

  • รศ. ดร.สมบุญ จารุเกษมทวี (ปริญญาเอก สาขาจิตวิทยาคลินิกว Ph.D. in Clinical Psychology)
  • รศ. ดร.กุลยา พิสิษฐ์สังฆการ (ปริญญาเอก สาขาจิตวิทยาคลินิก และปริญญาเอกจิตวิทยาการศึกษา: Psy.D in Clinical Psychology and Ph.D. in Educational Psychology)

 

ค่าลงทะเบียน : 2,600 บาท (ราคานี้รวมอาหารว่างและอาหารกลางวัน)

 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

ศูนย์สุขภาวะทางจิต คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เบอร์โทรศัพท์โครงการ : 061-736-2859 (09.00 – 17.00 น.)

อีเมล : psychulaworkshop@gmail.com