การกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม – Assertiveness

16 Dec 2025

คำศัพท์จิตวิทยา

 

การกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม หมายถึง การที่บุคคลสามารถแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของตนออกมาได้อย่างเหมาะสม เปิดเผย และเป็นไปตามธรรมชาติ ปราศจากความวิตกกังวลทางอารมณ์ สามารถเรียกร้องสิทธิของตนได้ มีการสื่อสารที่ตรงไปตรงมาและมีประสิทธิภาพ สามารถรักษาสัมพันธภาพระหว่างบุคคลได้

 

 

Bower และ Bower (1976) ได้อธิบายลักษณะของการกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมประกอบด้วย 12 ลักษณะ ตังนี้

 

  1. การพูดแสดงความรู้สึก – บุคคลสามารถแสดงความชอบและความสนใจออกมาได้ว่าตนรู้สึกอย่างไร มีความคิดเช่นไร โดยสามารถแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาอย่างตรงไปตรงมาได้อย่างเหมาะสม
  2. การพูดเกี่ยวกับตนเอง – เมื่อบุคคลแสดงพฤติกรรมหรือกระทำสิ่งที่มีคุณค่า บุคคลสามารถบอกเล่าเรื่องราวของตนเองกับคนรอบข้าง โดยไม่ผูกขาดการสนทนาไว้แต่เพียงผู้เดียว ไม่พูดจาโอ้อวด และสามารถพูดถึงความสำเร็จของตนได้อย่างเหมาะสม
  3. การพูดจาทักทายปราศรัย – บุคคลสามารถแสดงความเป็นมิตร และสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคลที่ต้องการทำความรู้จักได้ ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายด้วยน้ำเสียงที่แสดงความยินดีที่ได้พบ สามารถสร้างบทสนทนาที่ดีต่อไปได้
  4. การยอมรับคำชมเชย – บุคคลสามารถยอมรับคำชมเชยได้อย่างจริงใจ และไม่ปฏิเสธคำชมเชยที่ได้รับ
  5. การแสดงสีหน้าอย่างเหมาะสม – บุคคลสามารถแสดงออกทางสีหน้าและน้ำเสียงได้ตรงตามความรู้สึกที่แท้จริง สามารถสบตาคู่สนทนาได้อย่างเหมาะสม
  6. การแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างสุภาพ – บุคคลสามารถแสดงออกได้อย่างสุภาพโดยไม่เสแสร้ง เมื่อมีความรู้สึกว่าไม่เห็นด้วยกับข้อความในการสนทนานั้น ซึ่งอาจแสดงออกด้วยการเลิกคิ้ว หรี่ตา ส่ายศีรษะ หรือเปลี่ยนหัวข้อในการสนทนา โดยสามารถแสดงออกมาได้อย่างเหมาะสมและสุภาพ
  7. การขอให้แสดงความกระจ่างชัด – เมื่อมีผู้ให้คำแนะนำ คำสั่งสอน หรือคำอธิบายที่กำกวมไม่ชัดเจน บุคคลสามารถซักถามเพื่อให้เข้าใจในความหมายของคำแนะนำสั่งสอนได้อย่างชัดเจน หรือขอร้องให้มีการอธิบายใหม่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นได้
  8. การถามเหตุผล – เมื่อมีผู้มาขอร้องให้ทำในสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล บุคคลสามารถถามเหตุผลที่ชัดเจนของสิ่งที่จะทำได้อย่างตรงไปตรงมา
  9. การแสดงออกซึ่งความไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน – เมื่อบุคคลมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับผู้อื่น บุคคลสามารถแสดงความไม่เห็นด้วย โดยสามารถแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป บอกความคิดและความรู้สึกของตนได้
  10. การพูดเพื่อรักษาสิทธิของตน – บุคคลสามารถเรียกร้องสิทธิของตนได้เมื่อรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบตนเอง เมื่อรู้สึกว่าตนถูกเอาเปรียบก็สามารถปฏิเสธได้โดยไม่เก็บมาคิดว่าเป็นความผิดของตน สามารถเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมของตนและขอร้องให้ผู้อื่นแสดงต่อตนเองอย่างยุติธรรมด้วย
  11. การยืนกราน – เมื่อรู้สึกว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม บุคคลสามารถทำการร้องทุกข์และยืนหยัดในวัตถุประสงค์ของตนเองจนกว่าจะได้รับความพอใจ แม้มีผู้คัดค้านก้ไม่เลิกล้มความตั้งใจนั้น
  12. การเลี่ยงการให้คำอธิบายกับทุก ๆ ความคิดเห็น – บุคคลสามารถโต้เถียงในการสนทนา โดยการยุติการวิจารณ์ เช่น เมื่อมีบุคคลหนึ่งถามเหตุผลว่าทำไม ๆ ตลอดเวลา บุคคลจะสามารถหยุดคำถามโดยการปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใด ๆ เพิ่มเติม หรือการถามคำถามนั้นกลับไปแก่ผู้ถาม โดยบุคคลอาจมีเหตุผลของตนเองโดยไม่จำเป็นต้องบอกว่าตนมีความคิดเห็นต่อเรื่องนั้นอย่างไร

 

 

 

 

 

ในทางตรงกันข้าม การไม่กล้าแสดงออก หมายถึง การขลาดอายไม่กล้าพูดถึงความรู้สึกของตนเองออกมาอย่างแท้จริง กลัวการประเมินทางลบจากผู้อื่น ไม่แสดงความรู้สึกนึกคิดและความต้องการของตนอย่างตรงไปตรงมาไม่กล้าตัดสินใจ เนื่องจากขาดความมั่นใจและความเคารพในตนเอง ไม่สามารถหาวิธีใหม่ ๆ ในการจัดการกับความไม่พึงพอใจของตนเองได้

 

การไม่กล้าแสดงออก มีทั้งการไม่กล้าแสดงออกซึ่งเป็นนิสัยพื้นฐาน และการไม่กล้าแสดงออกตามสถานการณ์ กล่าวคือ สถานการณ์แวดล้อมต่าง ๆ เป็นตัวสร้างความไม่สบายใจและทำให้เกิดพฤติกรรมไม่กล้ายืนหยัดในสิทธิ์ขึ้น ทั้งนี้ Fensterheim และ Bear (1975) ได้อธิบายลักษณะของการไม่กล้าแสดงออกว่าเป็นลักษณะของบุคคลซึ่งขาดการพัฒนาทางบุคลิกภาพ ขาดการพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้อื่น หรือมีความเจ็บปวดทางจิตใจ อย่างไรก็ตาม บุคคลสามารถแก้ไขและพัฒนาเพื่อให้กล้าแสดงออกมาขึ้นได้

 

 

ความก้าวร้าว (aggressive) มักถูกสับสนกับการกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมอยู่บ่อยครั้ง ในด้านของการแสดงออกและผลกระทบ ความก้าวร้าวมักถูกนิยามอย่างกว้าง ๆ ว่าเป็นลักษณะที่ก่อให้เกิดความคุกคามหรือความเจ็บปวดต่อผู้อื่น บุคคลที่มีความก้าวร้าวมักกล้ายืนยันในสิทธิของตนเอง แต่ก็ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่นและไม่แสดงความเคารพในสิทธิของผู้อื่น

 

 

พฤติกรรมการกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมนั้นเป็นไปเพื่อความเท่าเทียมกันในความสัมพันธ์ของมนุษย์ ส่งเสริมให้บุคคลทำในสิ่งที่สนใจ กล้ายืนยันโดยไม่มีความกังวลและสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกได้อย่างจริงใจและไม่กดดัน ยึดถือสิทธิส่วนบุคคลของตนเองโดยไม่ปฏิเสธสิทธิของผู้อื่น

 

 

 

 


 

 

 

 

ข้อมูลจาก

 

 

ภารดี ศิริสุทธิพัฒนา. (2550). ผลของการกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมและอารมณ์ต่อการคล้อยตามสิ่งชี้นำในกระบวนการซักถาม [วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]. คลังปัญญาจุฬาฯ. https://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2007.223

 

จิรายุ กองเพชร. (2559). ความสัมพันธ์ระหว่างการกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม ความมีจิตสานึก และการเห็นคุณค่าในตนเอง [โครงการวิชาการวิทยาศาสตรบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]. คลังปัญญาจุฬาฯ. https://doi.org/10.58837/CHULA.SP.2016.32

 

Share this content